สรุปผลการเลือกตั้ง พาร์ท 1 - วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งแบบเจาะลึก
งานเลือกตั้งเซมบัตสึ คืองานที่เหล่าเมมเบอร์ 48Group หลายคน ต่างตั้งตารอคอยทุกปี เพื่อพิสูจน์ถึงความรักและความนิยมของแฟน ๆ ที่มีในตัวเธอทั้งหลาย เช่นเดียวกับทุกปีที่จะต้องจัดการประกาศผลการเลือกตั้งให้ยิ่งใหญ่สมการรอคอยทั้งเมมเบอร์และแฟนคลับ
แต่การเลือกตั้งเซมบัตสึครั้งที่ 10 กลับแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าราชินีแห่ง 48Group จะเป็นใครก็ตาม เธอก็คือราชินีหน้าใหม่ที่เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ และความไม่แน่นอนนี้ทำให้ทกคนต่างคาดการณ์และพยากรณ์ออกไปในทิศทางที่แตกต่างกัน ผู้เขียนไม่กล้าวิเคราะห์ลึกถึงจุดที่สามารถวางตำแหน่งที่อันดับในวันสุดท้ายได้ เพราะความแปรปรวนและความไม่แน่นอนที่สูงเกินไป
และในที่สุด ผู้ชนะแห่ง 48Group ได้แก่ "Matsui Jurina (松井 珠理奈)" จาก SKE48 ด้วยคะแนน 194,453 คะแนน เธอคือราชินีแห่ง 48Group ความฝันของเธอในวันนี้ได้เป็นจริงแล้ว นี่คือจุดสูงสุดของการเป็นไอดอลใน 48Group ที่ความนิยมอยู่ในจุดที่สูงที่สุดและความรักของแฟนคลับได้แสดงพลังออกมาอย่างชัดเจนแล้ว
ผู้เขียนจะมาวิเคราะห์ถึงความสำเร็จของ Matsui Jurina ที่เกิดขึ้นจากการเลือกตั้งครั้งนี้
เมื่อโอกาสมาถึงหน้าบ้านตนเองแล้ว เหตุไฉนจะไม่รีบหยิบคว้ามัน เพราะโอกาสที่จะได้กลับมาจัดที่เดิมก็คงเป็นไปได้ยาก และคนในพื้นที่ก็ไม่อยากเสียเงินค่าตั๋วเพียงเพื่อเข้ามาดูเมมเบอร์จากที่อื่นนั่งเก้าอี้ราชินี AKB48Group ไป แต่ท้ายที่สุดแล้ว พี่น้อง SKE48 ก็ทำได้สำเร็จอย่างเด็ดขาด และสิ่งนี้ก็ได้รับการยืนยันโดยปัจจัยที่สอง
อย่างไรก็ตาม ผู้อ่านบางคนอาจมองแย้งว่า ไม่ว่าจะโหวตที่ใดในโลก ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจัดสถานที่การประกาศผลการเลือกตั้ง ซึ่งผู้เขียนมองว่าประเด็นนี้ถูกเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น เช่นเดียวกับการที่ผู้อ่านหลายคนมองว่า การเลือกตั้งในบ้าน SKE48 เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ Matsui Jurina ชนะการเลือกตั้ง
ผู้เขียนขอชี้แจงก่อนว่า การจัดการประกาศผลการเลือกตั้งในบ้าน คือเหตุผลเชิงจิตวิทยาที่ผู้คนในท้องที่ต่างมีความรู้สึกและอารมณ์ร่วมกันดังที่ได้อธิบายไปแล้วข้างต้น แต่หากพิจารณาจากสถิติที่เกิดขึ้น จะพบว่าเหตุผลนี้กลับขัดแย้งในตัวเอง
เรื่องแรก จำนวนเซมบัตสึของ SKE48 ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งที่ 9 พบว่ามีเซมบัตสึจำนวน 5 คนที่มาจาก SKE48 และในการเลือกตั้งครั้งที่ 10 ก็เช่นกัน ยังคงจำนวนไว้ที่ 5 คนจาก SKE48 และยังเป็นหน้าเดิมถึง 4 คนอีกด้วย ดังนั้นการเลือกตั้งในบ้าน จึงแทบไม่ได้ส่งผลที่แตกต่างกัน หากพิจารณาเฉพาะจำนวนเซมบัตสึจาก SKE48
เรื่องที่สอง คะแนนเสียงที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ซึ่งเกิดขึ้นเมมเบอร์ SKE48 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Matsui Jurina และ Suda Akari ซึ่งทำให้ทั้งสองได้อันดับที่ 1 และ 2 ตามลำดับ นั่นคือการเล่นในบ้าน SKE48 ครั้งนี้ ทำให้ความฝันที่จะล่าอันดับ 1 ของแฟนคลับ SKE48 สูงขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง หากพิจารณาจากคะแนนที่สูงขึ้น
แน่นอนว่าทั้งสองเรื่องนี้ คือข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ และสองเรื่องที่ถูกมองด้วยมุมที่แตกต่างนี้ ผู้เขียนจึงสามารถบอกได้ว่า "ศึกเลือกตั้งในบ้าน" ส่งผลต่อชัยชนะของ Matsui Jurina เพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่ปัจจัยที่ส่งผลทั้งหมดหรือเป็นส่วนใหญ่อย่างแน่นอน
ประการที่สอง แรงสนับสนุนที่เหนียวแน่นภายใน SKE48 - ในประวัติศาสตร์โลก ชาติมหาอำนาจต่างก็ต้องเผชิญกับจุดที่ยากลำบากที่สุดมาแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น เยอรมนีที่ฟื้นตัวจากซากของผู้แพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 กลายเป็นมหาอำนาจแห่งยุโรป หรือจีนที่พลิกดินแดนที่แตกแยกและยากจนกลาเป็นชาติที่มั่งคั่งและยิ่งใหญ่ของโลก
ใน AKB48Group ก็เช่นกัน SKE48 เผชิญหน้ากับความยากลำบาก โดยเฉพาะการจบการศึกษาพร้อมกัน 9 คน ทำให้ SKE48 ในเวลานั้นสั่นสะเทือนและเมมเบอร์อีกจำนวนหนึ่งก็ลังเลกับอนาคตของ SKE48 และถูกมองว่าอาจจะกลายเป็นวงแรกที่อาจต้องปิดตัวลงเพราะไม่มีเมมเบอร์เหลืออยู่ในวง
แต่ความพยายามของผู้เป็นสัญลักษณ์ของ SKE48 อย่าง Matsui Jurina กลับไม่ทอดทิ้งวงออกไปเช่นเดียวกับใครหลายคน เธอตั้งใจที่จะลุยไปในชื่อของ SKE48 ท่ามกลางแฟนคลับที่ยังสนับสนุนในตัวเธอ จนวันนี้ หลังจากที่ SKE48 สามารถกลับมาตั้งตัวได้อีกครั้ง วงน้องสาววงนี้ก็เปลี่ยนโฉมหน้ากลายเป็นมหาอำนาจของ 48Group อีกครั้ง
และประวัติศาสตร์ของ SKE48 ที่เคยเผชิญหน้ากับรูปแบบนี้นี่เองที่ทำให้ Hako-oshi (箱推し) หรือแฟนคลับที่เน้นการสนับสนุนสมาชิกโดยรวมของวง มากกว่าการเจาะจงเมมเบอร์คนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้เกิดกลุ่มที่กล้าลงทุนเพื่อสนับสนุน Matsui Jurina ให้ชนะ
ประการที่สาม SKE48 ครบรอบ 10 ปี - วง SKE48 จะก่อตั้งครบรอบ 10 ปีในวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 ไม่มีอะไรที่จะเฉลิมฉลองได้อย่างใหญ่ไปมากกว่าการที่ SKE48 ชนะการเลือกตั้งได้เสียที หลังจากที่ต้องรอมา 10 ปี ซึ่งชัยชนะครั้งนี้ก็ได้ตอกย้ำความยิ่งใหญ่ของ SKE48 ใน Nagoya ที่สามารถเอาชนะได้ และเป็นการเลือกตั้งเซมบัตสึโลกด้วย ก็ยิ่งฉลองได้อย่างเต็มที่เข้าไปอีก
ประการที่สี่ บารมีของ Matsui Jurina เอง - ศึกเลือกตั้งไม่ได้วัดที่ความสามารถในการเต้นหรือความพยายามในการเป็นไอดอล แต่ตัดสินที่บารมีและความรักของแฟนคลับจากการโหวตล้วน ๆ
การทำให้ทุกคนสนใจในเรื่องราวของตนเองไม่ใช่เรื่องยาก แต่การทำให้แฟนคลับยอมเสียเงินเพื่อให้ตนเองอยู่ในจุดที่สูงที่สุดของชีวิตเป็นสิ่งที่ยากยิ่งกว่า เพราะเรื่องเงินไม่ใช่เรื่องที่พูดคุยกันได้โดยง่าย เพราะเงินเป็นสิ่งที่ใช้เพื่อการอยู่รอดและเป็นพื้นฐานของการดำรงชีวิตในสังคมยุคใหม่ หากจะทำให้แฟนคลับยอมทุ่มเงินเพื่อโหวตเมมเบอร์ที่ชื่นชอบ แน่นอนว่าบารมีของเมมเบอร์ต้องสูงพอที่ทำให้พวกเขายอมรับและเลือกโหวตโดยไม่สงสัยหรือเสียดายเงิน (แม้ว่าจะไม่ใช่ผู้ชนะในการเลือกตั้งก็ตาม)
บารมีที่ Matsui Jurina สะสมมาตั้งแต่ก่อตั้ง SKE48 ซึ่งยังเด็กประถมปลายที่ไร้เดียงสา และเข้ามา AKB48 เพื่อมาอยู่ร่วมกับรุ่นพี่ ทำกิจกรรมกับ AKB48 ก่อนที่จะได้ควบวงกับ AKB48 และมาถึงในวันนี้ที่เธอได้กลายเป็นผู้ใหญ่ที่ทรงอิทธิพลในวงที่สุด เป็นเมมเบอร์หลักที่เป็นหัวใจของ SKE48 ที่ครองทั้งตลาดและความนิยมได้อย่างแท้จริง สิ่งเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า เธอคู่ควรกับชัยชนะครั้งนี้
"โลกใบนี้มีเรื่องราวให้พูดถึง คอยคำนึงเมื่อวันวานแสนหรรษา ในชีวิตใช่จะหนีโชคชะตา ลิขิตฟ้าเหมือนรู้แจ้งให้เป็นไป" เลข 10 ในวันนี้กลายเป็นเลขนำโชคของ Matsui Jurina ไปแล้ว
Matsui Jurina เป็นเซนเตอร์ซิงเกิ้ลที่ 10 ของ AKB48 ในชื่อ Oogoe Diamond (大声ダイヤモンド) ซึ่งวางขายวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 2008 ซึ่งตอนนั้น SKE48 ยังก่อตั้งวงได้ไม่ถึงครึ่งปีเสียด้วยซ้ำ การมาของเธอ ถูกมองว่า "ยัยนี่เป็นใครล่ะนั่น ทำไมเด็กตัวน้อย ๆ ถึงได้เป็นเซนเตอร์ซิงเกิ้ลแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีใครรู้จักเลย"
แต่ว่า 10 ปีถัดมา ในการเลือกตั้งครั้งที่ 10 ที่ SKE48 อายุครบรอบ 10 ปีพอดีนั้น Matsui Jurina คือผู้ชนะการเลือกตั้งเซมบัตสึพร้อมกับการเป็นราชินีแห่ง 48Group
ก้าวต่อจากนี้ของ SKE48 จะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป ซิงเกิ้ลที่ 23 ของ SKE48 จะมี Matsui Jurina เป็นเซนเตอร์ ซึ่งเป็นเซนเตอร์ครั้งที่ 18 ของเพลงหลักใน SKE48 และ 10 ปีหลังจากนี้ของ SKE48 จะไม่ใช่เพียงวงน้องสาวของ AKB48 ที่คอยตามหลังและเข้ามาพึ่งพาบารมีของ AKB48 แต่ศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจของ SKE48 จะยิ่งใหญ่ไปกว่านั้นอย่างแน่นอน
ประการที่ห้า แต้มต่อในเรื่องของกำลังซื้อ - สิ่งที่ทำให้ SKE48 มีแต้มต่อในการต่อการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างชัดเจน คือช่วงเวลาขายแผ่นซีดีซิงเกิ้ลล่าสุดของ SKE48 ที่ห่างจากช่วงขายซิงเกิ้ล Teacher Teacher ของ AKB48 มากกว่าช่วงเวลาขายแผ่นซีดีของวงใน 48Group อื่น ๆ
นั่นคือวางวางจำหน่ายซิงเกิ้ล Muishiki no Iro (無意識の色) ของ SKE48 คือวันที่ 10 มกราคม ค.ศ. 2018 ซึ่งห่างจาก Teacher Teacher ของ AKB48 มากถึง 4 เดือนครึ่ง ทำให้กำลังซื้อของแฟนคลับ SKE48 มีสูงกว่าและได้เปรียบเรื่องจำนวนเงินที่จะไม่ถูกตัดออกซิงเกิ้ลอื่น ๆ (ไม่ว่าเพื่อรูปสุ่มหรือบัตรจับมือก็ตาม)
แม้ว่าซิงเกิ้ลของวงน้องสาวอื่น ๆ จะวางจำหน่ายถัดจากนี้ 2-3 เดือนและมียอดวางจำหน่ายที่ลดลงอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ยอดขายของซิงเกิ้ลล่าสุดของวงน้องสาวที่วางจำหน่ายหลังเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา ก็ทำให้กำลังซื้อส่วนหนึ่งถูกตัดออกไปอย่างชัดเจนนับแสนแผ่นจากยอดขายที่เกิดขึ้น (แม้ว่ายอดขายจะลดลงเพื่อสะสมเงินในการโหวตแล้วก็ตาม) ซึ่งกระทบกับอันดับได้อย่างมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ต้องการชัยชนะในการเลือกตั้งซึ่งคะแนนนับหมื่นจึงจะสามารถพลิกอันดับได้
ประการที่หก เหตุผลทางสถิติ - ในวันที่ Sashihara Rino (指原莉乃) และ Watanabe Mayu (渡辺麻友) ยังเลือกตั้งแย่งชิงที่ 1 อยู่นั้น Matsui Jurina ก็รั้งอันดับที่ 3 ไว้ ซึ่งไม่มีเมมเบอร์คนใดสามารถกระชากที่ 3 ไปจากเธอได้เลยในการเลือกตั้งครั้งที่ 8 และครั้งที่ 9
เมื่อ Sashihara Rino และ Watanabe Mayu ต่างก็ไม่ลงการเลือกตั้งแล้ว ก็ไม่มีการแย่งชิงอันดับ 1 ของสองคนนี้อีกต่อไป และนั่นก็ทำให้ Matsui Jurina ถูกดันขึ้นมาเป็นอันดับที่ 1 โดยปริยายแบบปราศจากผู้ท้าทาย ซึ่งก็เกิดขึ้นกับ Miyawaki Sakura (宮脇咲良) และ Suda Akari (須田亜香里) ทุกครั้ง
จากนี้ไป หาก Matsui Jurina ลงเลือกตั้งอีก ก็เชื่อว่าสถิติก็ไม่น่าถูกทำลาย เพราะเธอกลายเป็นเมมเบอร์ที่ไร้เทียมทานไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นศึกภายนอกหรือศึกภายในก็ตาม และยังได้เป็นราชินีแห่ง AKB48Group ต่อไปเรื่อย ๆ ตราบเท่าที่เธอยังลงเลือกตั้ง
ผู้เขียนเคยวาดกราฟแสดงถึงแนวโน้มของคะแนนในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้ออกมา ซึ่งพบว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ สถิติยังคงเหมือนเดิมสำหรับ Matsui Jurina
จากกราฟคะแนนการเลือกตั้ง พบว่าคะแนนในการเลือกตั้งครั้งที่ 10 ของทั้งสามอันดับแรกเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตัวเต็งการเลือกตั้งต่างได้รับคะแนนที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Matsui Jurina ที่คะแนนเพิ่มขึ้นถึง 80,838 คะแนน, Miyawaki Sakura มีคะแนนเพิ่มขึ้น 58,303 คะแนน, และ Suda Akari มีคะแนนเพิ่มขึ้น 90,887 คะแนน
สมมติว่าไม่มีการวางจำหน่ายซิงเกิ้ล Hayaokuri Calendar (早送りカレンダー) ของ HKT48 ในวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 ผู้เขียนคาดคะเนว่าคะแนนของ Miyawaki Sakura ควรจะเพิ่มสูงกว่านี้อีกอย่างน้อย 30,000-50,000 คะแนน ซึ่งน่าจะสูงพอที่จะคว้าที่ 2 แต่จะเอาชนะ Matsui Jurina ได้หรือไม่นั้น ถ้าพิจารณาสถิติก็ต้องบอกว่า "ไม่ได้" แต่ปาฏิหาริย์ก็อาจเกิดขึ้นได้ เพราะ "สถิติมีไว้ให้ถูกทำลาย"
จุดที่สนใจในการเลือกตั้งครั้งนี้นอกเหนือจากกรณีของ Matsui Jurina คือ การที่ Suda Akari แซง Miyawaki Sakura ได้สำเร็จหลังจากที่ถูกแซงไปแล้ว 3 ครั้งล่าสุด และอีกจุดที่สนใจคือความแผ่วลงของ Ogino Yuka (荻野由佳) ซึ่งภาพดังกล่าว ผู้เขียนจินตนาการจากการเลือกตั้งครั้งที่ 9 แล้วก็ดันไปตรงกับรูปแบบในการเลือกตั้งครั้งที่ 10 โดยบังเอิญ
จริงอยู่ที่แฟนคลับจำนวนมาก ตัดสินใจจะไม่ซื้อซิงเกิ้ลที่ 3 เพื่อลงคะแนนโดยเฉพาะ แต่การจะชนะการเลือกตั้ง ไม่ได้ขึ้นเฉพาะผู้ที่ซื้อแผ่นซิงเกิ้ลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังขึ้นผู้ที่ใช้บริการอีเมลล์หรือแอพลิเคชันมือถือของ 48Group ทั้งหมดซึ่งสามารถลงคะแนนได้เช่นกัน โดยการโหวตจากทั้งสองแบบนี้ต่างก็นับเป็น 1 คะแนน
การขยายฐานเสียง ต้องเน้นทั้งเชิงลึก โดยให้แฟนคลับทุ่มคะแนนผ่านการซื้อแผ่นจำนวนมาก และเชิงกว้าง โดยมีจำนวนแฟนคลับที่สนับสนุนมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้สนับสนุน Ogino Yuka คือ มีเพียงการขยายฐานเสียงเชิงลึก ซึ่งยอมทุ่มเงินมหาศาลเพื่อเอาชนะ แต่สิ่งที่ขาดไป กลับกลายเป็นการขยายฐานเสียงที่ต้องมีเพื่อเพิ่มคะแนนโหวต ดังนั้นคะแนนในรอบนี้จึงสูงขึ้นจากครั้งที่แล้วเพียงเล็กน้อย อย่างน้อยก็ดันอันดับขึ้นไปได้เพียง 1 อันดับเท่านั้น
สำหรับ AKB48 แล้ว มันคือการต้องกลับไปเริ่มที่จุดเซฟใหม่อีกครั้ง โดย Okada Nana (岡田奈々) ได้คะแนนเพียง 75,067 คะแนน ซึ่งน้อยกว่าหนึ่งแสนคะแนน สิ่งที่ทำให้ AKB48 กลับเผชิญในวันนี้ คือการที่วงน้องสาวถูกแย่งความนิยมและกลายเป็น supply ที่ AKB48 ขาดไม่ได้ ทำให้เวลานี้ AKB48 ต้องกลับมามองที่ตัวเองแล้วว่าการยืนด้วยตนเองอีกครั้งมันเป็นอย่างไร จากการควบทีม 8 ก็อาจจะแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการพึ่งตนเองของ AKB48
เมมเบอร์คนหนึ่งที่ถูกคาดหวังว่าจะได้เซมบัตสึในการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นบรรณาธิการหรือใครหลายคน เนื่องจากการได้อันดับที่ 23 ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แต่ผลการเลือกตั้งจริง พบว่าอันดับของเธอ คืออันดับที่ 37 ซึ่งต่ำกว่าการเลือกตั้งครั้งที่แล้วเสียอีก
ทั้ง ๆ ที่ Nakai Rika ปรากฏตัวใน SHOWROOM ทั้งวันทั้งคืนให้แฟนคลับได้เจอจนเบื่อ (เพื่อการเป็นเซนเตอร์ในยูนิตที่ AKB48 ร่วมกับ SHOWROOM โดยเฉพาะ) แต่กลายเป็นว่า ความถี่ที่สูงมากนี้กลับส่งผลร้ายทั้งสุขภาพและความนิยมของ Nakai Rika เอง
สิ่งที่ทำให้ Nakai Rika เลือกที่เป็นเซนเตอร์เพลงพิเศษของโปรเจค SHOWROOM มากกว่าการเป็นเซมบัตสึ เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่มากกว่า มีการอัพเดทผลคะแนนที่มีความถี่มากกว่า และสามารถเรียกคะแนนเพิ่มเติมได้ตามที่ต้องการเพื่อเอาชนะทุกคนใน SHOWROOM (ดั่งสุภาษิตน้ำหยดลงหินทุกวัน หินมันยังกร่อน ออน SHOWROOM ถี่ทุกวัน อันดับมันก็น่าจะได้ที่ 1)
แต่รอบนี้ อันดับสุดท้ายที่ได้กลับผิดคาด เนื่องจากสองปัจจัยด้วยกันดังนี้
ปัจจัยแรก เด็กใหม่มาแล้ว - ไม่มีใครคาดคิดว่าวันดีคืนดี เคงคิวเซย์ NGT48 จะถูกผลักดันแบบสายฟ้าแลบโดยเมมเบอร์คนนั้น คือ Nara Miharu (奈良未遥) ซึ่งได้อันดับที่ 21 จากที่ไม่เคยติดอันดับ สร้างความตกใจให้กับเมมเบอร์และแฟนคลับวงอื่น ซึ่งไม่มีใครคิดว่าเคงคิวเซย์จะเป็น Undergirls ซิงเกิ้ลผลการเลือกตั้งได้
แต่การขึ้นมาของเด็กใหม่ กลับกลายเป็นการถีบส่งเมมเบอร์เดิมที่อยู่ในอับดับสูง และเคราะห์ร้ายที่ Nakai Rika ถูกเบียดตกอันดับออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ
ปัจจัยที่สอง Redline หายไปแล้ว - เป็นเรื่องเศร้าที่การเปลี่ยนชุดประจำปีของ NGT48 จะเปลี่ยนจากชุดสีแดงสดใสพร้อมปีกผีเสื้อน้อย ๆ ด้านหลังกลายเป็นชุดสีครีมลายดอกไม้ ซึ่งพอหมด Redline ความขลังของ Nakai Rika จากเซนเตอร์ซิงเกิ้ลแรกก็หายไปทันที การถูกผลักดันของเธอก็หายไป คะแนนนิยมเลยหดลงไปด้วย
และสิ่งที่สังเกตได้อีกอย่างหนึ่งของแฟนคลับ NGT48 คือการสนับสนุน โดยเฉพาะเน้นเมมเบอร์ให้มีอันดับที่สูงขึ้นอย่างน่าตกใจซึ่งเป็นเช่นนี้มาตลอด
เมมเบอร์ทีม 8 ที่ถูกพูดถึงมากที่สุด และถูกมองว่าได้รับการผลักดันเต็มที่มากที่สุด ไม่ว่าเป็นเซนเตอร์ซิงเกิ้ล Teacher Teacher หรือเป็นเมมเบอร์พรีเซนเตอร์ในร้านค้า แต่การผลักดันในปีนี้ถือว่ายังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ผู้เขียนมองว่า มี 2 ปัจจัยที่ส่งผลต่อความนิยมของ Oguri Yui
ปัจจัยแรก ฐานเสียงใน Tokyo - Oguri Yui ถูกผลักดันเพื่อเป็นตัวแทนจาก Tokyo ซึ่งเป็นฐานเสียงของ AKB48 ดังนั้น จึงไม่ได้เปรียบในเรื่องของความนิยม และการผลักดันของสตาฟเพื่อให้ Oguri Yui โดดเด่นกว่าคนอื่น ๆ ในทีม 8 ซึ่งบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า Tokyo ควรเด่นที่สุด เช่นเดียวกับการที่วงไอดอลใน 48Group ควรให้ AKB48 กลับมายิ่งใหญ่ที่สุดให้ได้
แต่การผลักดันแบบนี้ในระยะแรกมักพบอุปสรรค คือการขยายฐานเสียงที่ยังไม่มากพอ ซึ่งการแย่งชิงฐานเสียงโดยเฉพาะใน Tokyo ทำได้ยากอยู่แล้ว และต้องใช้เวลาเพื่อให้ผลการผลักดันประสบความสำเร็จ นอกเหนือจากการใช้การตลาดและแรงสนับสนุนจากสตาฟ
ปัจจัยที่สอง บารมีที่ยังไม่มากพอ - แม้ว่าในปัจจุบัน เมมเบอร์ AKB48 ที่ยังลงเลือกตั้งอยู่จะไม่ได้โดดเด่นเหมือนเมมเบอร์ในตำนานรุ่นก่อน ๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีตัวเลือกที่ดีพอต่อการเป็นอันดับ 1 ได้ในเวลานี้ โดยเฉพาะ Okada Nana ที่ตอนนี้เป็นเมมเบอร์ที่มีคะแนนนิยมสูงที่สุด
เมมเบอร์แถวหน้าของ AKB48 ที่โดดเด่นซึ่งมีอายุในวงการน้อยที่สุด ก็น่าจะเป็น Mukaichi Mion (向井地美音) รุ่นที่ 15 ซึ่งเข้ามาในวงการตอนปี ค.ศ. 2013 และได้รับการเข้าทีมก่อนที่ทีม 8 จะก่อตั้งได้ไม่นาน แต่ด้วยการที่เธอเป็นนักอสดงตั้งแต่เด็ก จึงทำให้คนรู้จักก่อนหน้า และทำให้ขยายฐานเสียงได้เร็วขึ้น ในขณะที่ Oguri Yui ซึ่งเข้าทีม 8 ด้วยการเริ่มจากศูนย์นั้น กลับต้องพยายามเพิ่มฐานเสียงด้วยตนเองและต้องอาศัยการผลักดันในการทำให้ประสบความสำเร็จในฐานะไอดอล และอาจต้องรออย่างน้อย 2-3 ปีเพื่อให้ผลของการผลักดันออกมาชัดเจนและเป็นรูปธรรมกว่านี้
ปัจจัยแรก แรงสนับสนุนที่ไม่มากพอใน NMB48 - หลังจากที่ Yamamoto Sayaka (山本彩) ตัดสินใจไม่ลงเลือกตั้งในการเลือกตั้งครั้งที่ 9 เหล่าแฟนคลับ NMB48 ก็ไม่ได้ลงคะแนนให้ใครแทนอย่างชัดเจนเพื่อรักษาเก้าอี้คามิ 7 ให้กับเมมเบอร์จาก NMB48 ดูเหมือนว่า แฟนคลับ NMB48 หลายคนทิ้งการแข่งขันนี้ตาม Yamamoto Sayaka ไปด้วย ด้วยเหตุผลที่แฟนคลับบางส่วนเลือกที่จะสนับสนุน Yamamoto Sayaka โดยตรงมากกว่าการสนับสนุน NMB48 โดยรวมทั้งวง
เมื่อพิจารณาจากจำนวนโหวต พบว่าคะแนนโหวตของ Shiroma Miru ลดลงจากการเลือกตั้งครั้งที่ 9 ในทางตรงข้าม คะแนนของ Yoshida Akari (吉田朱里) กลับสูงขึ้นและมากพอที่จะรักษาพื้นที่เซมบัตสึไว้ได้ แน่นอนว่าต้องมีอะไรที่กระทบโดยตรงกับ Shiroma Miru
จริงอยู่ที่ Shiroma Miru ติดเซมบัตสึในซิงเกิ้ลของ AKB48 บ่อยครั้งและเคยควบตำแหน่งเมมเบอร์ทีม A มาแล้ว แต่พบว่าผลการเลือกตั้งครั้งล่าสุด อันดับกลับต่ำลงจนถึงขั้นหลุดเซมบัตสึ ซึ่งผิดความหมายจากผู้เขียนไปอย่างมาก
ผู้เขียนคาดว่าสาเหตุของคะแนนที่ลดลงนี้ อาจมาจากการควบทีม ซึ่งน่าจะส่งผลให้คะแนนความนิยมหรือฐานเสียงเพิ่มขึ้นได้ในระดับหนึ่ง แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อเกิดการยกเลิกการควบทีม คือการเสียฐานคะแนนจากส่วนที่ควบไปด้วย ความรู้สึกเมื่อเมมเบอร์ต้องสละการควบตำแหน่งกลับไปยังที่ตั้งเดิมอย่างเต็มตัว ก็เหมือนกับการจบการศึกษาจากสเตจนั้น (แต่ไม่ได้หมายถึงการจบการศึกษาออกจากวง เพียงแค่เหลือที่ทำงานเพียงที่เดียว) ซึ่งกรณีนี้ก็เกิดขึ้นเช่นเดียวกับ Tomonaga Mio (朝長美桜) อีกด้วย
ปัญหาจากการยกเลิกการควบทีมอาจไม่ชัดเจนเท่าไร แต่ปัญหาโดยรวมจาก NMB48 เป็นสิ่งที่ชัดเจนถึงความถดถอยในความนิยมของเธอ และนั่นคือสิ่งที่กระทบไปถึงปัจจัยที่สอง
Shiroma Miru น่าจะรู้ตัวตั้งแต่ต้นแล้วว่า ฐานเสียงจาก NMB48 เองไม่เพียงพอต่อการ คงเซมบัตสึอีกต่อไป ซึ่งการไปลุย Produce48 น่าจะเป็นทั้งทางออกและโอกาสที่จะทำให้เธอกลับมายืนบนสนามเลือกตั้งในฐานะเซมบัตสึ ผู้เขียนเชื่อว่า เธอถูกวางให้เป็นตัวแทน NMB48 ที่ไปไม่ใช่เพียงเพื่อไปเอาประสบการณ์ แต่เป็นการไปเพื่อไปหาฐานเสียงใหม่ในต่างแดนมากกว่า (พลังจากแฟนคลับของ Yamamoto Sayaka และ Sutou Ririka ไม่ได้เติมเต็มคะแนนของเธอมากเท่าที่ควร)
ปัจจัยที่สอง เหตุการณ์จาก Sutou Ririka - อาจจะเป็นคราวโชคร้ายของ NMB48 ที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากทั้งวง ซึ่งเหตุการณ์นี้ส่งผลต่อเสถียรภาพและความสั่นคลอนของ NMB48 แน่นอน และเหตุการณ์นี้สะท้อนไปถึงความนิยมที่ลดลงเป็นส่วนมากของเมมเบอร์ NMB48 เพราะความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจในตัวเมมเบอร์ที่เป็นโอชิของตนเอง
แน่นอนว่าประเด็นนี้ ผู้เขียนตั้งไว้ว่าเป็นได้ทั้งแง่บวกหากคะแนนเสียงถูกเปลี่ยนมือ หรือเกิดโอชิหน้าใหม่ขึ้นมา และเป็นแง่ลบจากความไม่ไว้ใจของตัวแฟนคลับเอง เนื่องจากความดังและการถูกจ้องเล่นงานจากเรื่องอื้อฉาวที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
การร่วงลงของความนิยมอย่างรวดเร็วของ Kato Yuuka (加藤夕夏) และ Murase Sae (村瀬紗英) ในการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการบ่งบอกถึงความไม่ไว้ใจของแฟนคลับที่มีต่อเมมเบอร์ของตนเอง ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่าความกลัวเกิดขึ้นนี้ จะส่งผลเฉพาะระยะสั้น เนื่องจากเป็นผลทางอ้อมที่กระทบจากเมมเบอร์ร่วมวงเท่านั้น แต่ไม่น่าถึงขั้นตัดใจออกไปอย่างแน่นอน ผู้เขียรคาดว่า อาจต้องใช้ระยะเวลาอีกหนึ่งปีเพื่อดึงความเชื่อมั่นในตัวแฟนคลับเหล่านั้นกลับมา
ดังนั้น ผู้เขียนจึงยังไม่สรุปแบบชัดเจนถึงความนิยมที่ลดลงในตัวของ Shiroma Miru เพราะจำนวนคะแนนที่ลดลงนั้น อาจเป็นที่แฟนคลับที่โอชิโดยเฉพาะ
แต่การเลือกตั้งเซมบัตสึครั้งที่ 10 กลับแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าราชินีแห่ง 48Group จะเป็นใครก็ตาม เธอก็คือราชินีหน้าใหม่ที่เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ และความไม่แน่นอนนี้ทำให้ทกคนต่างคาดการณ์และพยากรณ์ออกไปในทิศทางที่แตกต่างกัน ผู้เขียนไม่กล้าวิเคราะห์ลึกถึงจุดที่สามารถวางตำแหน่งที่อันดับในวันสุดท้ายได้ เพราะความแปรปรวนและความไม่แน่นอนที่สูงเกินไป
และในที่สุด ผู้ชนะแห่ง 48Group ได้แก่ "Matsui Jurina (松井 珠理奈)" จาก SKE48 ด้วยคะแนน 194,453 คะแนน เธอคือราชินีแห่ง 48Group ความฝันของเธอในวันนี้ได้เป็นจริงแล้ว นี่คือจุดสูงสุดของการเป็นไอดอลใน 48Group ที่ความนิยมอยู่ในจุดที่สูงที่สุดและความรักของแฟนคลับได้แสดงพลังออกมาอย่างชัดเจนแล้ว
ผู้เขียนจะมาวิเคราะห์ถึงความสำเร็จของ Matsui Jurina ที่เกิดขึ้นจากการเลือกตั้งครั้งนี้
ความสำเร็จของ Matsui Jurina
ผู้เขียนยอมรับว่า บรรณาธิการของคู่มือการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ สามารถคาดเดาได้ว่าใครควรจะได้ชูนิ้วที่บ่งบอกว่าเป็นที่ 1 ได้อย่างถูกต้อง (แม้ว่าหลังจากนี้จะเริ่มคลาดเคลื่อนไปเรื่อย ๆ ก็ตาม)
วันนี้ เก้าอี้ราชินีแห่ง AKB48Group กลายเป็นของ SKE48 ในเมือง Nagoya ที่เป็นบ้านของ SKE48 และมี Matsui Jurina เป็นผู้นำ วันนี้จะมาทบทวนปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จของ Matsui Jurina และยืนยันความจริงในการวิเคราะห์ครั้งนี้
(บทวิเคราะห์: https://48studies.blogspot.com/2018/05/AKB48-senbatsu-election-2018-1.html)
วินาทีประวัติศาสตร์กับการนั่งเก้าอี้ผู้ชนะของ Matsui Jurina |
ประการแรก ศึกเลือกตั้งในบ้าน - แม้ว่าจะเป็นเพียงสถานที่ประกาศผลการเลือกตั้ง แต่นี่คือสนามของไอดอลที่จะได้เห็นคนที่จะเป็นอันดับที่ 1 ของการเลือกตั้งได้นั่งเก้าอี้อันทรงเกียรติแห่งนี้ ซึ่งก็คงไม่อยากมีใครเห็นเมมเบอร์จากที่อื่นมานั่งเก้าอี้ที่บ้านของตนเองให้เจ็บใจอย่างแน่นอน นั่นคือศึกทางจิตวิทยาของแฟนคลับใน Nagoya อย่าง SKE48 ที่มีความรู้สึกร่วมกันเช่นนั้น
เหตุทางจิตวิทยาสำหรับการเล่นในบ้านนี้ มีผลต่อความรู้สึกของแฟนคลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนคลับ SKE48 ที่ต้องการชัยชนะในบ้าน อารมณ์ร่วมของการต่อสู้ที่ดุเดือดทำให้เกิดแรงผลักดันที่รุนแรง ส่งผลให้แรงโหวตของ SKE48 ยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย
เหตุทางจิตวิทยาสำหรับการเล่นในบ้านนี้ มีผลต่อความรู้สึกของแฟนคลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนคลับ SKE48 ที่ต้องการชัยชนะในบ้าน อารมณ์ร่วมของการต่อสู้ที่ดุเดือดทำให้เกิดแรงผลักดันที่รุนแรง ส่งผลให้แรงโหวตของ SKE48 ยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย
เมื่อโอกาสมาถึงหน้าบ้านตนเองแล้ว เหตุไฉนจะไม่รีบหยิบคว้ามัน เพราะโอกาสที่จะได้กลับมาจัดที่เดิมก็คงเป็นไปได้ยาก และคนในพื้นที่ก็ไม่อยากเสียเงินค่าตั๋วเพียงเพื่อเข้ามาดูเมมเบอร์จากที่อื่นนั่งเก้าอี้ราชินี AKB48Group ไป แต่ท้ายที่สุดแล้ว พี่น้อง SKE48 ก็ทำได้สำเร็จอย่างเด็ดขาด และสิ่งนี้ก็ได้รับการยืนยันโดยปัจจัยที่สอง
อย่างไรก็ตาม ผู้อ่านบางคนอาจมองแย้งว่า ไม่ว่าจะโหวตที่ใดในโลก ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจัดสถานที่การประกาศผลการเลือกตั้ง ซึ่งผู้เขียนมองว่าประเด็นนี้ถูกเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น เช่นเดียวกับการที่ผู้อ่านหลายคนมองว่า การเลือกตั้งในบ้าน SKE48 เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ Matsui Jurina ชนะการเลือกตั้ง
ผู้เขียนขอชี้แจงก่อนว่า การจัดการประกาศผลการเลือกตั้งในบ้าน คือเหตุผลเชิงจิตวิทยาที่ผู้คนในท้องที่ต่างมีความรู้สึกและอารมณ์ร่วมกันดังที่ได้อธิบายไปแล้วข้างต้น แต่หากพิจารณาจากสถิติที่เกิดขึ้น จะพบว่าเหตุผลนี้กลับขัดแย้งในตัวเอง
เรื่องแรก จำนวนเซมบัตสึของ SKE48 ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งที่ 9 พบว่ามีเซมบัตสึจำนวน 5 คนที่มาจาก SKE48 และในการเลือกตั้งครั้งที่ 10 ก็เช่นกัน ยังคงจำนวนไว้ที่ 5 คนจาก SKE48 และยังเป็นหน้าเดิมถึง 4 คนอีกด้วย ดังนั้นการเลือกตั้งในบ้าน จึงแทบไม่ได้ส่งผลที่แตกต่างกัน หากพิจารณาเฉพาะจำนวนเซมบัตสึจาก SKE48
เรื่องที่สอง คะแนนเสียงที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ซึ่งเกิดขึ้นเมมเบอร์ SKE48 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Matsui Jurina และ Suda Akari ซึ่งทำให้ทั้งสองได้อันดับที่ 1 และ 2 ตามลำดับ นั่นคือการเล่นในบ้าน SKE48 ครั้งนี้ ทำให้ความฝันที่จะล่าอันดับ 1 ของแฟนคลับ SKE48 สูงขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง หากพิจารณาจากคะแนนที่สูงขึ้น
แน่นอนว่าทั้งสองเรื่องนี้ คือข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ และสองเรื่องที่ถูกมองด้วยมุมที่แตกต่างนี้ ผู้เขียนจึงสามารถบอกได้ว่า "ศึกเลือกตั้งในบ้าน" ส่งผลต่อชัยชนะของ Matsui Jurina เพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่ปัจจัยที่ส่งผลทั้งหมดหรือเป็นส่วนใหญ่อย่างแน่นอน
ประการที่สอง แรงสนับสนุนที่เหนียวแน่นภายใน SKE48 - ในประวัติศาสตร์โลก ชาติมหาอำนาจต่างก็ต้องเผชิญกับจุดที่ยากลำบากที่สุดมาแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น เยอรมนีที่ฟื้นตัวจากซากของผู้แพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 กลายเป็นมหาอำนาจแห่งยุโรป หรือจีนที่พลิกดินแดนที่แตกแยกและยากจนกลาเป็นชาติที่มั่งคั่งและยิ่งใหญ่ของโลก
ใน AKB48Group ก็เช่นกัน SKE48 เผชิญหน้ากับความยากลำบาก โดยเฉพาะการจบการศึกษาพร้อมกัน 9 คน ทำให้ SKE48 ในเวลานั้นสั่นสะเทือนและเมมเบอร์อีกจำนวนหนึ่งก็ลังเลกับอนาคตของ SKE48 และถูกมองว่าอาจจะกลายเป็นวงแรกที่อาจต้องปิดตัวลงเพราะไม่มีเมมเบอร์เหลืออยู่ในวง
SKE48 ในวันที่เมมเบอร์ 9 คนประกาศจบการศึกษาพร้อมกัน |
และประวัติศาสตร์ของ SKE48 ที่เคยเผชิญหน้ากับรูปแบบนี้นี่เองที่ทำให้ Hako-oshi (箱推し) หรือแฟนคลับที่เน้นการสนับสนุนสมาชิกโดยรวมของวง มากกว่าการเจาะจงเมมเบอร์คนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้เกิดกลุ่มที่กล้าลงทุนเพื่อสนับสนุน Matsui Jurina ให้ชนะ
ประการที่สาม SKE48 ครบรอบ 10 ปี - วง SKE48 จะก่อตั้งครบรอบ 10 ปีในวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 ไม่มีอะไรที่จะเฉลิมฉลองได้อย่างใหญ่ไปมากกว่าการที่ SKE48 ชนะการเลือกตั้งได้เสียที หลังจากที่ต้องรอมา 10 ปี ซึ่งชัยชนะครั้งนี้ก็ได้ตอกย้ำความยิ่งใหญ่ของ SKE48 ใน Nagoya ที่สามารถเอาชนะได้ และเป็นการเลือกตั้งเซมบัตสึโลกด้วย ก็ยิ่งฉลองได้อย่างเต็มที่เข้าไปอีก
ภาพโปรไฟล์ใน Twitter ของ SKE48 เพื่อฉลองครบรอบ 10 ปี |
การทำให้ทุกคนสนใจในเรื่องราวของตนเองไม่ใช่เรื่องยาก แต่การทำให้แฟนคลับยอมเสียเงินเพื่อให้ตนเองอยู่ในจุดที่สูงที่สุดของชีวิตเป็นสิ่งที่ยากยิ่งกว่า เพราะเรื่องเงินไม่ใช่เรื่องที่พูดคุยกันได้โดยง่าย เพราะเงินเป็นสิ่งที่ใช้เพื่อการอยู่รอดและเป็นพื้นฐานของการดำรงชีวิตในสังคมยุคใหม่ หากจะทำให้แฟนคลับยอมทุ่มเงินเพื่อโหวตเมมเบอร์ที่ชื่นชอบ แน่นอนว่าบารมีของเมมเบอร์ต้องสูงพอที่ทำให้พวกเขายอมรับและเลือกโหวตโดยไม่สงสัยหรือเสียดายเงิน (แม้ว่าจะไม่ใช่ผู้ชนะในการเลือกตั้งก็ตาม)
บารมีที่ Matsui Jurina สะสมมาตั้งแต่ก่อตั้ง SKE48 ซึ่งยังเด็กประถมปลายที่ไร้เดียงสา และเข้ามา AKB48 เพื่อมาอยู่ร่วมกับรุ่นพี่ ทำกิจกรรมกับ AKB48 ก่อนที่จะได้ควบวงกับ AKB48 และมาถึงในวันนี้ที่เธอได้กลายเป็นผู้ใหญ่ที่ทรงอิทธิพลในวงที่สุด เป็นเมมเบอร์หลักที่เป็นหัวใจของ SKE48 ที่ครองทั้งตลาดและความนิยมได้อย่างแท้จริง สิ่งเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า เธอคู่ควรกับชัยชนะครั้งนี้
Matsui Jurina กับ เซนเตอร์ซิงเกิ้ล Oogoe Diamond (大声ダイヤモンド) |
Matsui Jurina เป็นเซนเตอร์ซิงเกิ้ลที่ 10 ของ AKB48 ในชื่อ Oogoe Diamond (大声ダイヤモンド) ซึ่งวางขายวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 2008 ซึ่งตอนนั้น SKE48 ยังก่อตั้งวงได้ไม่ถึงครึ่งปีเสียด้วยซ้ำ การมาของเธอ ถูกมองว่า "ยัยนี่เป็นใครล่ะนั่น ทำไมเด็กตัวน้อย ๆ ถึงได้เป็นเซนเตอร์ซิงเกิ้ลแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีใครรู้จักเลย"
แต่ว่า 10 ปีถัดมา ในการเลือกตั้งครั้งที่ 10 ที่ SKE48 อายุครบรอบ 10 ปีพอดีนั้น Matsui Jurina คือผู้ชนะการเลือกตั้งเซมบัตสึพร้อมกับการเป็นราชินีแห่ง 48Group
ก้าวต่อจากนี้ของ SKE48 จะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป ซิงเกิ้ลที่ 23 ของ SKE48 จะมี Matsui Jurina เป็นเซนเตอร์ ซึ่งเป็นเซนเตอร์ครั้งที่ 18 ของเพลงหลักใน SKE48 และ 10 ปีหลังจากนี้ของ SKE48 จะไม่ใช่เพียงวงน้องสาวของ AKB48 ที่คอยตามหลังและเข้ามาพึ่งพาบารมีของ AKB48 แต่ศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจของ SKE48 จะยิ่งใหญ่ไปกว่านั้นอย่างแน่นอน
ประการที่ห้า แต้มต่อในเรื่องของกำลังซื้อ - สิ่งที่ทำให้ SKE48 มีแต้มต่อในการต่อการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างชัดเจน คือช่วงเวลาขายแผ่นซีดีซิงเกิ้ลล่าสุดของ SKE48 ที่ห่างจากช่วงขายซิงเกิ้ล Teacher Teacher ของ AKB48 มากกว่าช่วงเวลาขายแผ่นซีดีของวงใน 48Group อื่น ๆ
นั่นคือวางวางจำหน่ายซิงเกิ้ล Muishiki no Iro (無意識の色) ของ SKE48 คือวันที่ 10 มกราคม ค.ศ. 2018 ซึ่งห่างจาก Teacher Teacher ของ AKB48 มากถึง 4 เดือนครึ่ง ทำให้กำลังซื้อของแฟนคลับ SKE48 มีสูงกว่าและได้เปรียบเรื่องจำนวนเงินที่จะไม่ถูกตัดออกซิงเกิ้ลอื่น ๆ (ไม่ว่าเพื่อรูปสุ่มหรือบัตรจับมือก็ตาม)
แม้ว่าซิงเกิ้ลของวงน้องสาวอื่น ๆ จะวางจำหน่ายถัดจากนี้ 2-3 เดือนและมียอดวางจำหน่ายที่ลดลงอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ยอดขายของซิงเกิ้ลล่าสุดของวงน้องสาวที่วางจำหน่ายหลังเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา ก็ทำให้กำลังซื้อส่วนหนึ่งถูกตัดออกไปอย่างชัดเจนนับแสนแผ่นจากยอดขายที่เกิดขึ้น (แม้ว่ายอดขายจะลดลงเพื่อสะสมเงินในการโหวตแล้วก็ตาม) ซึ่งกระทบกับอันดับได้อย่างมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ต้องการชัยชนะในการเลือกตั้งซึ่งคะแนนนับหมื่นจึงจะสามารถพลิกอันดับได้
ประการที่หก เหตุผลทางสถิติ - ในวันที่ Sashihara Rino (指原莉乃) และ Watanabe Mayu (渡辺麻友) ยังเลือกตั้งแย่งชิงที่ 1 อยู่นั้น Matsui Jurina ก็รั้งอันดับที่ 3 ไว้ ซึ่งไม่มีเมมเบอร์คนใดสามารถกระชากที่ 3 ไปจากเธอได้เลยในการเลือกตั้งครั้งที่ 8 และครั้งที่ 9
เมื่อ Sashihara Rino และ Watanabe Mayu ต่างก็ไม่ลงการเลือกตั้งแล้ว ก็ไม่มีการแย่งชิงอันดับ 1 ของสองคนนี้อีกต่อไป และนั่นก็ทำให้ Matsui Jurina ถูกดันขึ้นมาเป็นอันดับที่ 1 โดยปริยายแบบปราศจากผู้ท้าทาย ซึ่งก็เกิดขึ้นกับ Miyawaki Sakura (宮脇咲良) และ Suda Akari (須田亜香里) ทุกครั้ง
จากนี้ไป หาก Matsui Jurina ลงเลือกตั้งอีก ก็เชื่อว่าสถิติก็ไม่น่าถูกทำลาย เพราะเธอกลายเป็นเมมเบอร์ที่ไร้เทียมทานไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นศึกภายนอกหรือศึกภายในก็ตาม และยังได้เป็นราชินีแห่ง AKB48Group ต่อไปเรื่อย ๆ ตราบเท่าที่เธอยังลงเลือกตั้ง
ผู้เขียนเคยวาดกราฟแสดงถึงแนวโน้มของคะแนนในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้ออกมา ซึ่งพบว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ สถิติยังคงเหมือนเดิมสำหรับ Matsui Jurina
สถิติและแนวโน้มในการเลือกตั้งของเมมเบอร์ 5 อันดับแรก |
สมมติว่าไม่มีการวางจำหน่ายซิงเกิ้ล Hayaokuri Calendar (早送りカレンダー) ของ HKT48 ในวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 ผู้เขียนคาดคะเนว่าคะแนนของ Miyawaki Sakura ควรจะเพิ่มสูงกว่านี้อีกอย่างน้อย 30,000-50,000 คะแนน ซึ่งน่าจะสูงพอที่จะคว้าที่ 2 แต่จะเอาชนะ Matsui Jurina ได้หรือไม่นั้น ถ้าพิจารณาสถิติก็ต้องบอกว่า "ไม่ได้" แต่ปาฏิหาริย์ก็อาจเกิดขึ้นได้ เพราะ "สถิติมีไว้ให้ถูกทำลาย"
จุดที่สนใจในการเลือกตั้งครั้งนี้นอกเหนือจากกรณีของ Matsui Jurina คือ การที่ Suda Akari แซง Miyawaki Sakura ได้สำเร็จหลังจากที่ถูกแซงไปแล้ว 3 ครั้งล่าสุด และอีกจุดที่สนใจคือความแผ่วลงของ Ogino Yuka (荻野由佳) ซึ่งภาพดังกล่าว ผู้เขียนจินตนาการจากการเลือกตั้งครั้งที่ 9 แล้วก็ดันไปตรงกับรูปแบบในการเลือกตั้งครั้งที่ 10 โดยบังเอิญ
ภาพจำลองของแฟนคลับ NGT48 หลังจากทราบข่าวว่า Ogino Yuka ได้อันดับที่ 1 ซึ่งห่างจากอันดับที่ 2 ขาดลอย |
ดูเหมือนว่าแฟนคลับ NGT48 มีความมั่นใจว่า รอบนี้จะต้องไม่เหมือนเดิม จะไม่แผ่วเบาหรือประมาทเช่นเดียวกับการเลือกตั้งครั้งที่ 9 แต่ว่าผลการเลือกตั้งครั้งที่ 10 ก็เหมือนเดิม นั่นคือกำลังการลงคะแนนอ่อนลงในช่วงปลายการเลือกตั้ง (ซึ่งก็เป็น Deja Vu นั่นเอง)
การขยายฐานเสียง ต้องเน้นทั้งเชิงลึก โดยให้แฟนคลับทุ่มคะแนนผ่านการซื้อแผ่นจำนวนมาก และเชิงกว้าง โดยมีจำนวนแฟนคลับที่สนับสนุนมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้สนับสนุน Ogino Yuka คือ มีเพียงการขยายฐานเสียงเชิงลึก ซึ่งยอมทุ่มเงินมหาศาลเพื่อเอาชนะ แต่สิ่งที่ขาดไป กลับกลายเป็นการขยายฐานเสียงที่ต้องมีเพื่อเพิ่มคะแนนโหวต ดังนั้นคะแนนในรอบนี้จึงสูงขึ้นจากครั้งที่แล้วเพียงเล็กน้อย อย่างน้อยก็ดันอันดับขึ้นไปได้เพียง 1 อันดับเท่านั้น
สำหรับ AKB48 แล้ว มันคือการต้องกลับไปเริ่มที่จุดเซฟใหม่อีกครั้ง โดย Okada Nana (岡田奈々) ได้คะแนนเพียง 75,067 คะแนน ซึ่งน้อยกว่าหนึ่งแสนคะแนน สิ่งที่ทำให้ AKB48 กลับเผชิญในวันนี้ คือการที่วงน้องสาวถูกแย่งความนิยมและกลายเป็น supply ที่ AKB48 ขาดไม่ได้ ทำให้เวลานี้ AKB48 ต้องกลับมามองที่ตัวเองแล้วว่าการยืนด้วยตนเองอีกครั้งมันเป็นอย่างไร จากการควบทีม 8 ก็อาจจะแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการพึ่งตนเองของ AKB48
ความคลาดเคลื่อนของการคาดการณ์จากบรรณาธิการ
เหมือนเกมการเลือกตั้งจะพลิกผันราวกับหุ้นที่หันผวน บรรณาธิการคู่มือการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการสามารถคาดการณ์เซมบัตสึได้อย่างถูกต้องเพียง 10 จาก 16 คน (โดยไม่พิจารณาอันดับเซมบัตสึ)
เท่านั้นยังไม่พอ เมมเบอร์ในปกคู่มือที่หลุดอันดับการเลือกตั้งต่างก็กระจายออกไปครบทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น Undergirls, Next Girls, Future Girls, Upcoming Girls, หรือแม้แต่ตำแหน่งพิเศษสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้อย่าง The 10th AKB48 Sekai Senbatsu Sousenkyo Kinen Waku
อย่าพึ่งตัดสินเหล่าบรรณาธิการคู่มือหรือนักวิเคราะห์ในคู่มือทั้งหลายว่าเป็นนักเดาหรือไม่ได้เตรียมข้อมูลมาดีพอ ขอให้เข้าใจก่อนว่า บรรณาธิการเหล่านี้ต่างก็มีข้อมูลและวิเคราะห์ในรูปแบบที่เห็นตามความคิดหรือทัศนะของสตาฟที่ทำงาน ผู้เขียนไม่ได้เชื่อในสิ่งที่บรรณาธิการคาดการณ์ทั้งหมด และผู้เขียนยังยอมรับถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการคาดเดาและวิเคราะห์ครั้งนี้ ทุกสิ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากการเลือกตั้งครั้งนี้
Nakai Rika (中井りか)
Nakai Rika |
อันดับที่คาดการณ์: อันดับที่ 9
อันดับที่ได้รับจริง: อันดับที่ 37เมมเบอร์คนหนึ่งที่ถูกคาดหวังว่าจะได้เซมบัตสึในการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นบรรณาธิการหรือใครหลายคน เนื่องจากการได้อันดับที่ 23 ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แต่ผลการเลือกตั้งจริง พบว่าอันดับของเธอ คืออันดับที่ 37 ซึ่งต่ำกว่าการเลือกตั้งครั้งที่แล้วเสียอีก
ทั้ง ๆ ที่ Nakai Rika ปรากฏตัวใน SHOWROOM ทั้งวันทั้งคืนให้แฟนคลับได้เจอจนเบื่อ (เพื่อการเป็นเซนเตอร์ในยูนิตที่ AKB48 ร่วมกับ SHOWROOM โดยเฉพาะ) แต่กลายเป็นว่า ความถี่ที่สูงมากนี้กลับส่งผลร้ายทั้งสุขภาพและความนิยมของ Nakai Rika เอง
Nakai Rika ปรากฏตัวใน SHOWROOM แม้ตอนกินข้าวหรือใกล้จะนอน |
แต่รอบนี้ อันดับสุดท้ายที่ได้กลับผิดคาด เนื่องจากสองปัจจัยด้วยกันดังนี้
ปัจจัยแรก เด็กใหม่มาแล้ว - ไม่มีใครคาดคิดว่าวันดีคืนดี เคงคิวเซย์ NGT48 จะถูกผลักดันแบบสายฟ้าแลบโดยเมมเบอร์คนนั้น คือ Nara Miharu (奈良未遥) ซึ่งได้อันดับที่ 21 จากที่ไม่เคยติดอันดับ สร้างความตกใจให้กับเมมเบอร์และแฟนคลับวงอื่น ซึ่งไม่มีใครคิดว่าเคงคิวเซย์จะเป็น Undergirls ซิงเกิ้ลผลการเลือกตั้งได้
Nara Miharu |
ปัจจัยที่สอง Redline หายไปแล้ว - เป็นเรื่องเศร้าที่การเปลี่ยนชุดประจำปีของ NGT48 จะเปลี่ยนจากชุดสีแดงสดใสพร้อมปีกผีเสื้อน้อย ๆ ด้านหลังกลายเป็นชุดสีครีมลายดอกไม้ ซึ่งพอหมด Redline ความขลังของ Nakai Rika จากเซนเตอร์ซิงเกิ้ลแรกก็หายไปทันที การถูกผลักดันของเธอก็หายไป คะแนนนิยมเลยหดลงไปด้วย
และสิ่งที่สังเกตได้อีกอย่างหนึ่งของแฟนคลับ NGT48 คือการสนับสนุน โดยเฉพาะเน้นเมมเบอร์ให้มีอันดับที่สูงขึ้นอย่างน่าตกใจซึ่งเป็นเช่นนี้มาตลอด
Oguri Yui (小栗有以)
Oguri Yui |
อันดับที่คาดการณ์: อันดับที่ 10
อันดับที่ได้รับจริง: อันดับที่ 25เมมเบอร์ทีม 8 ที่ถูกพูดถึงมากที่สุด และถูกมองว่าได้รับการผลักดันเต็มที่มากที่สุด ไม่ว่าเป็นเซนเตอร์ซิงเกิ้ล Teacher Teacher หรือเป็นเมมเบอร์พรีเซนเตอร์ในร้านค้า แต่การผลักดันในปีนี้ถือว่ายังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ผู้เขียนมองว่า มี 2 ปัจจัยที่ส่งผลต่อความนิยมของ Oguri Yui
ปัจจัยแรก ฐานเสียงใน Tokyo - Oguri Yui ถูกผลักดันเพื่อเป็นตัวแทนจาก Tokyo ซึ่งเป็นฐานเสียงของ AKB48 ดังนั้น จึงไม่ได้เปรียบในเรื่องของความนิยม และการผลักดันของสตาฟเพื่อให้ Oguri Yui โดดเด่นกว่าคนอื่น ๆ ในทีม 8 ซึ่งบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า Tokyo ควรเด่นที่สุด เช่นเดียวกับการที่วงไอดอลใน 48Group ควรให้ AKB48 กลับมายิ่งใหญ่ที่สุดให้ได้
แต่การผลักดันแบบนี้ในระยะแรกมักพบอุปสรรค คือการขยายฐานเสียงที่ยังไม่มากพอ ซึ่งการแย่งชิงฐานเสียงโดยเฉพาะใน Tokyo ทำได้ยากอยู่แล้ว และต้องใช้เวลาเพื่อให้ผลการผลักดันประสบความสำเร็จ นอกเหนือจากการใช้การตลาดและแรงสนับสนุนจากสตาฟ
ปัจจัยที่สอง บารมีที่ยังไม่มากพอ - แม้ว่าในปัจจุบัน เมมเบอร์ AKB48 ที่ยังลงเลือกตั้งอยู่จะไม่ได้โดดเด่นเหมือนเมมเบอร์ในตำนานรุ่นก่อน ๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีตัวเลือกที่ดีพอต่อการเป็นอันดับ 1 ได้ในเวลานี้ โดยเฉพาะ Okada Nana ที่ตอนนี้เป็นเมมเบอร์ที่มีคะแนนนิยมสูงที่สุด
เมมเบอร์แถวหน้าของ AKB48 ที่โดดเด่นซึ่งมีอายุในวงการน้อยที่สุด ก็น่าจะเป็น Mukaichi Mion (向井地美音) รุ่นที่ 15 ซึ่งเข้ามาในวงการตอนปี ค.ศ. 2013 และได้รับการเข้าทีมก่อนที่ทีม 8 จะก่อตั้งได้ไม่นาน แต่ด้วยการที่เธอเป็นนักอสดงตั้งแต่เด็ก จึงทำให้คนรู้จักก่อนหน้า และทำให้ขยายฐานเสียงได้เร็วขึ้น ในขณะที่ Oguri Yui ซึ่งเข้าทีม 8 ด้วยการเริ่มจากศูนย์นั้น กลับต้องพยายามเพิ่มฐานเสียงด้วยตนเองและต้องอาศัยการผลักดันในการทำให้ประสบความสำเร็จในฐานะไอดอล และอาจต้องรออย่างน้อย 2-3 ปีเพื่อให้ผลของการผลักดันออกมาชัดเจนและเป็นรูปธรรมกว่านี้
Shiroma Miru (白間美瑠)
Shiroma Miru |
อันดับที่คาดการณ์: อันดับที่ 12
อันดับที่ได้รับจริง: อันดับที่ 20
เกิดอะไรขึ้นกับแฟนคลับ NMB48 และเกิดอะไรขึ้นกับ Shiroma Miru (白間美瑠) ที่อันดับของเธอร่วงลงจากอันดับที่ 12 เป็นอันดับที่ 20 ซึ่งเป็นอันดับเดียวกับที่ Sutou Ririka (須藤凜々花) สร้างวีรกรรมสุดสะเทือนไว้ในปีที่แล้ว
การหายไปของ Shiroma Miru ก็เหมือนกับการหักปากกาเซียนหลายคนอย่างไม่น่าเชื่อ ผู้เขียนและผู้อ่านหลายคนต่างตกใจกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งลางบอกเหตุก็น่าจะเป็นการที่ไม่มีเมมเบอร์คนใดใน NMB48 ติด 16 อันดับแรกในผลด่วนการเลือกตั้ง ผู้เขียนมองโลกในแง่ดีว่า อันดับจริงอาจจะสูงกว่านี้ก็เป็นได้ แต่กลับกลายเป็นว่า เมมเบอร์ NMB48 ที่ติดเซมบัตสึในครั้งนี้ มีเพียงคนเดียว และ Shiroma Miru ไม่ได้อยู่ในรายชื่อเซมบัตสึอีกด้วย ซึ่งผู้เขียนมองว่าน่าจะเกิดจาก 2 ปัจจัย ดังนี้
ปัจจัยแรก แรงสนับสนุนที่ไม่มากพอใน NMB48 - หลังจากที่ Yamamoto Sayaka (山本彩) ตัดสินใจไม่ลงเลือกตั้งในการเลือกตั้งครั้งที่ 9 เหล่าแฟนคลับ NMB48 ก็ไม่ได้ลงคะแนนให้ใครแทนอย่างชัดเจนเพื่อรักษาเก้าอี้คามิ 7 ให้กับเมมเบอร์จาก NMB48 ดูเหมือนว่า แฟนคลับ NMB48 หลายคนทิ้งการแข่งขันนี้ตาม Yamamoto Sayaka ไปด้วย ด้วยเหตุผลที่แฟนคลับบางส่วนเลือกที่จะสนับสนุน Yamamoto Sayaka โดยตรงมากกว่าการสนับสนุน NMB48 โดยรวมทั้งวง
เมื่อพิจารณาจากจำนวนโหวต พบว่าคะแนนโหวตของ Shiroma Miru ลดลงจากการเลือกตั้งครั้งที่ 9 ในทางตรงข้าม คะแนนของ Yoshida Akari (吉田朱里) กลับสูงขึ้นและมากพอที่จะรักษาพื้นที่เซมบัตสึไว้ได้ แน่นอนว่าต้องมีอะไรที่กระทบโดยตรงกับ Shiroma Miru
จริงอยู่ที่ Shiroma Miru ติดเซมบัตสึในซิงเกิ้ลของ AKB48 บ่อยครั้งและเคยควบตำแหน่งเมมเบอร์ทีม A มาแล้ว แต่พบว่าผลการเลือกตั้งครั้งล่าสุด อันดับกลับต่ำลงจนถึงขั้นหลุดเซมบัตสึ ซึ่งผิดความหมายจากผู้เขียนไปอย่างมาก
ผู้เขียนคาดว่าสาเหตุของคะแนนที่ลดลงนี้ อาจมาจากการควบทีม ซึ่งน่าจะส่งผลให้คะแนนความนิยมหรือฐานเสียงเพิ่มขึ้นได้ในระดับหนึ่ง แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อเกิดการยกเลิกการควบทีม คือการเสียฐานคะแนนจากส่วนที่ควบไปด้วย ความรู้สึกเมื่อเมมเบอร์ต้องสละการควบตำแหน่งกลับไปยังที่ตั้งเดิมอย่างเต็มตัว ก็เหมือนกับการจบการศึกษาจากสเตจนั้น (แต่ไม่ได้หมายถึงการจบการศึกษาออกจากวง เพียงแค่เหลือที่ทำงานเพียงที่เดียว) ซึ่งกรณีนี้ก็เกิดขึ้นเช่นเดียวกับ Tomonaga Mio (朝長美桜) อีกด้วย
ปัญหาจากการยกเลิกการควบทีมอาจไม่ชัดเจนเท่าไร แต่ปัญหาโดยรวมจาก NMB48 เป็นสิ่งที่ชัดเจนถึงความถดถอยในความนิยมของเธอ และนั่นคือสิ่งที่กระทบไปถึงปัจจัยที่สอง
Shiroma Miru น่าจะรู้ตัวตั้งแต่ต้นแล้วว่า ฐานเสียงจาก NMB48 เองไม่เพียงพอต่อการ คงเซมบัตสึอีกต่อไป ซึ่งการไปลุย Produce48 น่าจะเป็นทั้งทางออกและโอกาสที่จะทำให้เธอกลับมายืนบนสนามเลือกตั้งในฐานะเซมบัตสึ ผู้เขียนเชื่อว่า เธอถูกวางให้เป็นตัวแทน NMB48 ที่ไปไม่ใช่เพียงเพื่อไปเอาประสบการณ์ แต่เป็นการไปเพื่อไปหาฐานเสียงใหม่ในต่างแดนมากกว่า (พลังจากแฟนคลับของ Yamamoto Sayaka และ Sutou Ririka ไม่ได้เติมเต็มคะแนนของเธอมากเท่าที่ควร)
ปัจจัยที่สอง เหตุการณ์จาก Sutou Ririka - อาจจะเป็นคราวโชคร้ายของ NMB48 ที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากทั้งวง ซึ่งเหตุการณ์นี้ส่งผลต่อเสถียรภาพและความสั่นคลอนของ NMB48 แน่นอน และเหตุการณ์นี้สะท้อนไปถึงความนิยมที่ลดลงเป็นส่วนมากของเมมเบอร์ NMB48 เพราะความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจในตัวเมมเบอร์ที่เป็นโอชิของตนเอง
แน่นอนว่าประเด็นนี้ ผู้เขียนตั้งไว้ว่าเป็นได้ทั้งแง่บวกหากคะแนนเสียงถูกเปลี่ยนมือ หรือเกิดโอชิหน้าใหม่ขึ้นมา และเป็นแง่ลบจากความไม่ไว้ใจของตัวแฟนคลับเอง เนื่องจากความดังและการถูกจ้องเล่นงานจากเรื่องอื้อฉาวที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
การร่วงลงของความนิยมอย่างรวดเร็วของ Kato Yuuka (加藤夕夏) และ Murase Sae (村瀬紗英) ในการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการบ่งบอกถึงความไม่ไว้ใจของแฟนคลับที่มีต่อเมมเบอร์ของตนเอง ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่าความกลัวเกิดขึ้นนี้ จะส่งผลเฉพาะระยะสั้น เนื่องจากเป็นผลทางอ้อมที่กระทบจากเมมเบอร์ร่วมวงเท่านั้น แต่ไม่น่าถึงขั้นตัดใจออกไปอย่างแน่นอน ผู้เขียรคาดว่า อาจต้องใช้ระยะเวลาอีกหนึ่งปีเพื่อดึงความเชื่อมั่นในตัวแฟนคลับเหล่านั้นกลับมา
ดังนั้น ผู้เขียนจึงยังไม่สรุปแบบชัดเจนถึงความนิยมที่ลดลงในตัวของ Shiroma Miru เพราะจำนวนคะแนนที่ลดลงนั้น อาจเป็นที่แฟนคลับที่โอชิโดยเฉพาะ
Takino Yumiko (瀧野由美子)
Takino Yumiko |
อันดับที่คาดการณ์: อันดับที่ 13
อันดับที่ได้รับจริง: อันดับที่ 74
บรรณาธิการในคู่มือการเลือกตั้งเชื่อว่า Takino Yumiko (瀧野由美子) น่าจะเข้ามาเป็นเซมบัตสึได้ในการเลือกตั้งครั้งที่ 2 ของเธอ แต่นักวิเคราะห์และคอลัมนิสต์ในคู่มือกลับไม่ได้วางเธอไว้เลย ในขณะที่ผู้เขียนยังไม่เชื่อว่าจะติดเซมบัตสึ 100% เพราะยังไม่มีการประเมินแรงโหวตหรือลักษณะของแฟนคลับ STU48 ออกมาอย่างเป็นรูปธรรมเท่าไรนัก
ผู้เขียนวิเคราะห์ว่าสาเหตุที่ทำให้ Takino Yumiko มีคะแนนโหวตเพียงพอแค่ Upcoming Girls เท่านั้น ด้วยสองปัจจัยดังนี้
ประการที่หนึ่ง Okada Nana - ความต้องการของ Okada Nana ที่เป็นกัปตันของ STU48 คือ การเป็นอันดับที่ 1 ของการเลือกตั้ง ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลต่อความนิยมเมมเบอร์หลายคนใน STU48 อย่างแน่นอน เนื่องจาก STU48 ยังอยู่ในช่วงที่ตั้งตัวและยังไม่มีความพร้อมที่จะลุยอย่างเต็มตัว ไม่ว่าจะเป็นทีม หรือแม้แต่เธียเตอร์ที่เป็นเรือ ดังนั้นการผลักดัน Okada Nana จึงง่ายต่อการแสดงถึงความเป็นตัวแทนของ STU48 อย่างชัดเจน
แม้ว่าร้านค้าของ STU48 เลือกที่จะใช้ Takino Yumiko เป็นพื้นที่โฆษณาหลักในร้านค้าของ STU48 มากที่สุด แต่ในทางปฏิบัติ หลายคนก็ยังเลือกที่จะสนับสนุน Okada Nana ที่เป็นกัปตันวงมากกว่าอยู่ดี ซึ่งแน่นอนว่า อันดับและคะแนนของ Okada Nana ที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งก็มาจาก STU48 แต่สิ่งนี้แหละที่กลับไปลดประสิทธิภาพของแรงโหวตภายในเมมเบอร์ STU48 เอง ซึ่งทำให้การเริ่มต้นสู่การเป็นเซมบัตสึหลังเลือกตั้งของ Takino Yumiko ต้องใช้เวลาที่มากขึ้นอีก 1-2 ปี เพื่อให้วงสามารถตั้งตัวได้และมีพลังมากพอในการเป็นเซมบัตสึในอนาคต
ประการที่สอง พื้นที่ STU48 กว้างแต่ประสิทธิภาพ STU48 แคบ - STU48 คือวงน้องสาวล่าสุดในญี่ปุ่นที่มีพื้นที่ 7 จังหวัดในเขต Setouchi ซึ่งถูกวางให้เป็นวงที่มีเรือเป็นเธียเตอร์เคลื่อนที่ แต่ด้วยอายุวงที่ยังน้อย จึงทำให้การปฏิบัติงานทั้ง 7 จังหวัดพร้อมทำได้ยากยิ่ง
STU เลือกที่จะเข้าบริหารโดยตรงทั้งเธียเตอร์ ทั้งร้านค้า และเอเย่นต์ของเมมเบอร์ โดยใช้ระบบของ AKB48 และให้ความร่วมมือกับ AKS ในหลายประการ ซึ่ง AKS วางใจในตัว STU ที่ต้องการจะส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาคผ่าน STU48 อยู่แล้ว จึงเกิดทั้งรายการและรูปแบบซิงเกิ้ล (ซึ่งมาจากบริษัทที่รับทำแผ่นเพลง) ที่คล้ายกับ AKB48 ประหนึ่งว่าไปลอกมาแล้วเขียนในแบบ STU48 อีกที
ด้วยอายุวงเพียง 1 ปี STU48 เลือกที่จะเน้น 3 จังหวัดนี้ก่อน ได้แก่ Hiroshima, Okayama, และ Yamaguchi (เรียงตามลำดับความเข้มของการใช้งานเมมเบอร์ STU48 จากมากไปน้อย) ดังนั้น ในระยะนี้จึงเป็นการลงแรงสร้างฐานเสียงที่ยังไม่มีประสิทธิภาพเต็มที่ ซึ่งการพัฒนาความนิยมในระยะถัดมา คือการลงทุนสร้างฐานเสียงในอีก 4 จังหวัดที่เหลืออย่างเต็มที่
เมื่อ STU48 สามารถเปิดใช้เธียเตอร์ได้แล้ว ความนิยมของเมมเบอร์ STU48 จะมากขึ้นและอาจเกิดปฏิหาริย์ Takino Yumiko ที่ก้าวสู่เซมบัตสึได้อย่างรวดเร็วแบบเดียวกับที่ NGT48 เคยสร้างขึ้นมาแล้ว เพียงแต่ STU48 ในเวลานี้กำลังสร้างตัวและลงโปรโมตพื้นที่อยู่ให้เข้มแข็งนั่นเอง
Okabe Rin (岡部麟)
Okabe Rin |
อันดับที่คาดการณ์: อันดับที่ 15
อันดับที่ได้รับจริง: อันดับที่ 58
กัปตันทีม A คนใหม่ที่ชื่อว่า Okabe Rin (岡部麟) ถูกคาดหวังจากบรรณาธิการว่า น่าจะอยู่เซมบัตสึได้เลยโดยไม่ต้องแตะโซนล่าง ๆ แต่เพราะสิ่งนี้แหละที่ทำให้ดูแปลกไปเช่นเดียวกับ Takino Yumiko แน่นอนว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อ Okabe Rin มีอยู่สองประการ ดังนี้
ปัจจัยแรก บารมีที่ยังสะสมไม่มากพอ - ยังไม่เคยมีเมมเบอร์ทีม 8 คนใดที่สามารถเข้าถึงคำว่าเซมบัตสึจากการเลือกตั้งได้เลยจนถึงการเลือกตั้งครั้งที่ 10 ทีม 8 ที่ขึ้นชื่อว่าไอดอลที่จะเข้าไปหาคุณ อาจจะยังมีฐานเสียงที่ยังไม่เหนียวแน่นพอ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบและการจัดการทีม 8 ในอดีตที่แตกต่างจาก AKB48 ดั้งเดิม หรือกิจกรรมทีม 8 ที่มีส่วนที่แตกต่างออกไปจากทีมดั้งเดิมอีกด้วย
ทีม 8 พึ่งถูกผลักดันในปี ค.ศ. 2018 จากการเข้าควบทีมดั้งเดิมของ AKB48 หลังจากที่ยกเลิกการควบวงกับวงน้องสาว ทำให้ทีม 8 ในเวลานี้ จึงยังไม่มีฐานเสียงที่กว้างพอในการขึ้นมาเป็นกำลังหลักให้กับ AKB48 และอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 ปีเพื่อให้การผลักดันจากสตาฟของ Okabe Rin ในฐานะกัปตันทีม A เห็นผลอย่างชัดเจน
ปัจจัยที่สอง พื้นที่การตลาดยังน้อยเกินไป - ร้านค้าในทีม 8 พื้นที่พรีเซนเตอร์ส่วนใหญ่คือ Oguri Yui ซึ่ง Okabe Rin ยังมีพื้นที่ในร้านค้าไม่สูงมาก ทำให้การขยายความนิยมผ่านทางตลาดจึงทำได้ยาก ซึ่งตลาดทีม 8 ถูกแยกออกมาจากทีมดั้งเดิมของ AKB48 และยังไม่คึกคักหรือหนาแน่นเท่าไรนัก
พื้นที่การตลาดบ่งบอกถึงความนิยมได้เป็นอย่างดี แฟนคลับพร้อมที่จะซื้อของที่เมมเบอร์ลงมือวาดหรือมีภาพเมมเบอร์อยู่ในนั้น การตลาดจึงเป็นการวัดความนิยมไปในทางอ้อม และสามารถคาดการณ์ความนิยมผ่านยอดขายได้เช่นกัน (เช่นเดียวกับยอดขายแผ่นซิงเกิ้ล)
กัปตันทีม A คนใหม่ที่ชื่อว่า Okabe Rin (岡部麟) ถูกคาดหวังจากบรรณาธิการว่า น่าจะอยู่เซมบัตสึได้เลยโดยไม่ต้องแตะโซนล่าง ๆ แต่เพราะสิ่งนี้แหละที่ทำให้ดูแปลกไปเช่นเดียวกับ Takino Yumiko แน่นอนว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อ Okabe Rin มีอยู่สองประการ ดังนี้
ปัจจัยแรก บารมีที่ยังสะสมไม่มากพอ - ยังไม่เคยมีเมมเบอร์ทีม 8 คนใดที่สามารถเข้าถึงคำว่าเซมบัตสึจากการเลือกตั้งได้เลยจนถึงการเลือกตั้งครั้งที่ 10 ทีม 8 ที่ขึ้นชื่อว่าไอดอลที่จะเข้าไปหาคุณ อาจจะยังมีฐานเสียงที่ยังไม่เหนียวแน่นพอ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบและการจัดการทีม 8 ในอดีตที่แตกต่างจาก AKB48 ดั้งเดิม หรือกิจกรรมทีม 8 ที่มีส่วนที่แตกต่างออกไปจากทีมดั้งเดิมอีกด้วย
ทีม 8 พึ่งถูกผลักดันในปี ค.ศ. 2018 จากการเข้าควบทีมดั้งเดิมของ AKB48 หลังจากที่ยกเลิกการควบวงกับวงน้องสาว ทำให้ทีม 8 ในเวลานี้ จึงยังไม่มีฐานเสียงที่กว้างพอในการขึ้นมาเป็นกำลังหลักให้กับ AKB48 และอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 ปีเพื่อให้การผลักดันจากสตาฟของ Okabe Rin ในฐานะกัปตันทีม A เห็นผลอย่างชัดเจน
ปัจจัยที่สอง พื้นที่การตลาดยังน้อยเกินไป - ร้านค้าในทีม 8 พื้นที่พรีเซนเตอร์ส่วนใหญ่คือ Oguri Yui ซึ่ง Okabe Rin ยังมีพื้นที่ในร้านค้าไม่สูงมาก ทำให้การขยายความนิยมผ่านทางตลาดจึงทำได้ยาก ซึ่งตลาดทีม 8 ถูกแยกออกมาจากทีมดั้งเดิมของ AKB48 และยังไม่คึกคักหรือหนาแน่นเท่าไรนัก
พื้นที่การตลาดบ่งบอกถึงความนิยมได้เป็นอย่างดี แฟนคลับพร้อมที่จะซื้อของที่เมมเบอร์ลงมือวาดหรือมีภาพเมมเบอร์อยู่ในนั้น การตลาดจึงเป็นการวัดความนิยมไปในทางอ้อม และสามารถคาดการณ์ความนิยมผ่านยอดขายได้เช่นกัน (เช่นเดียวกับยอดขายแผ่นซิงเกิ้ล)
Ma Chia-Ling (馬嘉伶)
Ma Chia-Ling |
อันดับที่คาดการณ์: อันดับที่ 16
อันดับที่ได้รับจริง: อันดับที่ 97
ผ่านมา 2 ปีแล้วกับ Ma Chia-Ling ที่ถูกส่งไปอยู่กับ AKB48 (โดยคัดเลือกจากการออดิชัน AKB48 ไต้หวันในปี ค.ศ. 2015) ซึ่งเธอก็ได้เปลี่ยนแปลงไปมากมายพอสมควร
นับว่าเป็นสีสันของคู่มือการเลือกตั้งที่ Ma Chia-Ling ถูกวางตัวให้อยู่บนปก แต่ไม่มีใครคิดว่า Ma Chia-Ling จะถูกเลือกให้เป็นเซมบัตสึจริง ๆ โดยมี 2 ปัจจัยที่ถูกมองว่าน่าจะทำให้ความนิยมของ Ma Chia-Ling อยู่ในอันดับที่ 97 นี้
ปัจจัยแรก การเลือกตั้งในญี่ปุ่นที่รุนแรงเกินไป - แม้วา่จะขึ้นชื่อว่า การเลือกตั้งเซมบัตสึโลก แต่แต้มต่อที่วงในญี่ปุ่นมีอยู่ คือคะแนนจาก AKB48Mail และ AKB48Mobile (และรวมถึงบริการที่คล้าย ๆ กันในเครือของวงน้องสาวในญี่ปุ่น) ซึ่งถูกนับเป็น 1 คะแนนเช่นเดียวกับการโหวตจากรหัสที่แนบมากับแผ่นซิงเกิ้ล
แม้ว่า Ma Chia-Ling จะถูกผลักดันจากรายการ AKBINGO! แต่ Ma Chia-Ling กลับไม่ได้ครองพื้นที่ในตลาดมากเท่าที่ควร อีกทั้งความต่อเนื่องในการถูกผลักดันยังมาสะดุดจากการไม่ติดเซมบัตสึในซิงเกิ้ล Teacher Teacher ก็ยิ่งส่งผลให้แรงโหวตที่น่าจะสูงกลับลดลง
ปัจจัยที่สอง ฐานเสียงในไต้หวันที่ไม่แข็งแกร่งพอ - เมมเบอร์จาก TPE48 ไม่ได้ถูกเรียกชื่อทั้งในผลด่วนและในผลการเลือกตั้งจริง ซึ่งอาจมองได้ว่า ฐานเสียงในไต้หวันยังอ่อนเกินไปสำหรับการเลือกตั้งปีนี้ ซึ่งกำลังคะแนนโหวตของแฟนคลับไต้หวันเองก็ยังมีน้อย เนื่องจากทีมใน TPE48 ยังไม่เข้มแข็งพอ
ในขณะที่ Ma Chia-Ling กลับต้องพึ่งคะแนนจากแฟนคลับในญี่ปุ่นมากกว่าบ้านเกิดในไต้หวันในการทำให้เธอติดอันดับ แต่ตลาดในญี่ปุ่นเองก็ไม่ได้เปิดกว้างให้กับ Ma Chia-Ling เท่าไรนัก ทำให้คะแนนนิยมที่มีในตัวเธอจึงไม่สูงมาก
หาก TPE48 สามารถจัดตั้งทีมแรกของวง หรือเปิดเธียเตอร์ได้ก่อนการเลือกตั้งในปีหน้า ผู้เขียนเชื่อว่าอันดับของ Ma Chia-Ling น่าจะสูงขึ้นกว่านี้ ด้วยแรงสนับสนุนจากแฟนคลับในไต้หวันที่ผลักดัน Ma Chia-Ling ในฐานะคนชาติเดียวกัน
ผ่านมา 2 ปีแล้วกับ Ma Chia-Ling ที่ถูกส่งไปอยู่กับ AKB48 (โดยคัดเลือกจากการออดิชัน AKB48 ไต้หวันในปี ค.ศ. 2015) ซึ่งเธอก็ได้เปลี่ยนแปลงไปมากมายพอสมควร
นับว่าเป็นสีสันของคู่มือการเลือกตั้งที่ Ma Chia-Ling ถูกวางตัวให้อยู่บนปก แต่ไม่มีใครคิดว่า Ma Chia-Ling จะถูกเลือกให้เป็นเซมบัตสึจริง ๆ โดยมี 2 ปัจจัยที่ถูกมองว่าน่าจะทำให้ความนิยมของ Ma Chia-Ling อยู่ในอันดับที่ 97 นี้
ปัจจัยแรก การเลือกตั้งในญี่ปุ่นที่รุนแรงเกินไป - แม้วา่จะขึ้นชื่อว่า การเลือกตั้งเซมบัตสึโลก แต่แต้มต่อที่วงในญี่ปุ่นมีอยู่ คือคะแนนจาก AKB48Mail และ AKB48Mobile (และรวมถึงบริการที่คล้าย ๆ กันในเครือของวงน้องสาวในญี่ปุ่น) ซึ่งถูกนับเป็น 1 คะแนนเช่นเดียวกับการโหวตจากรหัสที่แนบมากับแผ่นซิงเกิ้ล
แม้ว่า Ma Chia-Ling จะถูกผลักดันจากรายการ AKBINGO! แต่ Ma Chia-Ling กลับไม่ได้ครองพื้นที่ในตลาดมากเท่าที่ควร อีกทั้งความต่อเนื่องในการถูกผลักดันยังมาสะดุดจากการไม่ติดเซมบัตสึในซิงเกิ้ล Teacher Teacher ก็ยิ่งส่งผลให้แรงโหวตที่น่าจะสูงกลับลดลง
ปัจจัยที่สอง ฐานเสียงในไต้หวันที่ไม่แข็งแกร่งพอ - เมมเบอร์จาก TPE48 ไม่ได้ถูกเรียกชื่อทั้งในผลด่วนและในผลการเลือกตั้งจริง ซึ่งอาจมองได้ว่า ฐานเสียงในไต้หวันยังอ่อนเกินไปสำหรับการเลือกตั้งปีนี้ ซึ่งกำลังคะแนนโหวตของแฟนคลับไต้หวันเองก็ยังมีน้อย เนื่องจากทีมใน TPE48 ยังไม่เข้มแข็งพอ
ในขณะที่ Ma Chia-Ling กลับต้องพึ่งคะแนนจากแฟนคลับในญี่ปุ่นมากกว่าบ้านเกิดในไต้หวันในการทำให้เธอติดอันดับ แต่ตลาดในญี่ปุ่นเองก็ไม่ได้เปิดกว้างให้กับ Ma Chia-Ling เท่าไรนัก ทำให้คะแนนนิยมที่มีในตัวเธอจึงไม่สูงมาก
หาก TPE48 สามารถจัดตั้งทีมแรกของวง หรือเปิดเธียเตอร์ได้ก่อนการเลือกตั้งในปีหน้า ผู้เขียนเชื่อว่าอันดับของ Ma Chia-Ling น่าจะสูงขึ้นกว่านี้ ด้วยแรงสนับสนุนจากแฟนคลับในไต้หวันที่ผลักดัน Ma Chia-Ling ในฐานะคนชาติเดียวกัน
บทสรุป
ไม่ใช่เพียงแค่การจัดในบ้าน SKE48 เท่านั้นที่ทำให้ Matsui Jurina เป็นราชินีแห่ง AKB48Group ได้ แต่่อีกหลายปัจจัยได้สนับสนุนเธอจนก้าวสู่ความสำเร็จครั้งนี้ และข้อเท็จจริงทั้งทางสถิติและการตลาดก็ยืนยันถึงความสำเร็จนี้อย่างเป็นรูปธรรม
ปกคู่มือการเลือกตั้ง ถูกจัดขึ้นมาตามความเห็นของบรรณาธิการที่มองว่าใครคือ 16 อันดับแรกของการเลือกตั้งจริง ซึ่งแน่นอนว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ทั้งบรรณาธิการ นักวิเคราะห์และคอลัมนิสต์ในคู่มือ ก็ยังทำได้แค่ใกล้เคียงเท่านั้น ดังนั้นความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งครั้งนี้จึงเป็นสเน่ห์อย่างหนึ่งซึ่งช่วยให้มีความสนุกและการลุ้นที่เข้มข้นยิ่งกว่าการเลือกตั้งครั้งอื่น ๆ
ตอนต่อไป
ผู้เขียนจะมาทำการวิเคราะห์และตอบโจทย์คำถามที่มีผู้อ่านได้แสดงความคิดเห็นไว้เป็นรายข้อ (ซึ่งวันเวลาในการเผยแพร่จะขึ้นกับจำนวนงานและเวลาที่ผู้เขียนมีอยู่)
- Soukantoku (総監督, ผู้จัดการทั่วไป) คนถัดไปของ 48Group: ตัวอย่างของ Schrödinger's cat? (ไอเดียโดย Thananon Meprachsom)
- สมมติฐานถ่ายโอนคะแนนโหวตของแฟนคลับ: ความจริงมีเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น? (ไอเดียโดย Sayomphu Juito และ Saraporn Keawsiripong)
- ตัวแทนจาก AKB48 ในยุคใหม่: มีใครพอจะทวงบัลลังก์คืนสู่มาตุภูมิบ้าง? (ไอเดียโดย Phongsaphat Wongsurin)
- วิกฤตศรัทธา NMB48: อันดับตกลงโดยไร้ทางออก? (ไอเดียโดย Phongsaphat Wongsurin และ)
- Post-Miyawaki Sakura age: ใครคือเดอะแบกของ HKT48 คนต่อไป? (ไอเดียโดย Tor Nantawat)
- Suda Akari: ซิสเตอร์ยักษ์ใหญ่จาก SKE48 ที่ไม่ใช่แค่ฉายาหมึกยักษ์? (ไอเดียโดย Thananon Meprachsom)
- หลังจากนี้ NGT48 จะปิดทุ่งนาสู้ เพราะโหวตรอบสอง เรามาแน่: คำประกาศที่เกินจริง? (ไอเดียโดย Beamn Suttinan)
และผู้เขียนจะมาวิเคราะห์ถึงเนื้อหาหลังการประชุมฉุกเฉินของ AKB48Group โดย Yokoyama Yui ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 18 มิถุนายน ค.ศ. 2018 ทางช่อง Fuji TV Next เวลา 19:00-21:00 น. (ตามเวลาญี่ปุ่น)
Comments
Post a Comment