48ศึกษากับบทวิเคราะห์ the series: ผู้จัดการทั่วไปคนถัดไปของ 48Group - ตัวอย่างของ Schrödinger's cat?

เนื้อหาบทความเรื่อง ผู้จัดการทั่วไปคนถัดไปของ 48Group: ตัวอย่างของ Schrödinger's cat? ได้รับไอเดียจาก Thananon Meprachsom ผู้เขียนต้องขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย

นี่คือ 1 ใน 7 บทความที่น่าสนใจสำหรับ "48ศึกษากับบทวิเคราะห์ the series"

Soukantoku (総監督) แปลว่า "ผู้จัดการทั่วไป" มีหน้าที่เป็นพี่ใหญ่ที่ดูแลทุกคนในหน่วยงาน ซึ่งใช้กับ AKB48Group ในฐานะเมมเบอร์ที่ดูแลทุกคนใน AKB48 และวงน้องสาวในเครือทั้งหมด

ประเด็นนี้มีที่มากจากการที่ Mukaichi Mion (向井地美音) เมมเบอร์ที่ได้อันดับที่ 13 ในการเลือกตั้งครั้งที่ 10 ประกาศต่อหน้าสาธารณชนที่รับชมอย่างใจจดใจจ่อว่า
「いつの日か、AKB48の総監督になりたいです!」
แปลว่า "วันใดวันหนึ่งข้างหน้า ฉันอยากที่จะเป็นผู้จัดการทั่วไปของ AKB48 ค่ะ"
AKBNews ในรายการ AKBINGO! วันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 2018 ได้อธิบายคำพูดของ Mukaichi Mion ไว้
จากนั้นภาพก็ตัดไปที่ผู้คนใน Nagoya Dome ที่ปรบมือและภาพของ Yokoyama Yui (横山由依) ผู้จัดการทั่วไปคนปัจจุบันที่ยิ้มให้กับคำพูดนี้

อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ได้นำไปสู่ทั้งคำถามและประเด็นที่เกิดขึ้นว่า อะไรคือสิ่งที่ทำให้ Mukaichi Mion อยากเป็นผู้จัดการทั่วไปในอนาคต และ Mukaichi Mion พร้อมแล้วจริง ๆ หรือกับการเป็นผู้นำของ AKB48 หรือจริง ๆ แล้ว ในความคิดของ AKB48Group เอง อยากได้คนอื่นนอกเหนือจากนี้กันแน่

จุดเด่นในตัวของ Mukaichi Mion

การเสนอตัวเองในฐานะผู้จัดการทั่วไปของ AKB48Group นั้น ต้องมั่นใจว่าตนเองดีพอทีจะสามารถนำเมมเบอร์ทุกคนเข้าสู่วงการไอดอลได้เป็นอย่างดี และสามารถทนทั้งแรงเสียดทานจากผู้บริหารวง (ความหมายโดยนัยคือ สตาฟ และ AKS) และจากเมมเบอร์รุ่นใหม่ที่เข้ามาโดยไม่มีประสบการณ์
Mukaichi Mion
ผู้เขียนขออธิบายก่อนว่า Mukaichi Mion มีจุดเด่นอะไรที่ทำให้ตนเองมั่นใจว่าพร้อมจะแบกทุกอย่างใน AKB48Group

ความรู้และความรักใน AKB48 ที่ลึกซึ้งอย่างชัดเจน

หากจะเป็นผู้จัดการทั่วไป หรือเดอะแบกของ AKB48Group ได้นั้น สิ่งแรกที่ต้องพิจารณา คือ ความเข้าใจใน AKB48Group ที่ควรวางตัวอย่างไร และควรกำหนดทิศทางอย่างไรต่อไปในอนาคต หากขาดซึ่งวิสัยทัศน์และพลังขับเคลื่อนแล้ว AKB48Group ก็ไม่สามารถคุมเมมเบอร์จำนวนมหาศาลไว้ได้อย่างแน่นอน

คนที่รู้ AKB48Group อย่างถ่องแท้ จะเข้าใจในปัญหาที่เกิดขึ้นกับ AKB48Group และทำให้รู้ว่า AKB48Group ควรแก้ปัญหาหรือจัดการอย่างไร ไม่ว่าจะต้องเข้าใจในเมมเบอร์แต่ละคนว่าควรดูแลอย่างไร ต้องรู้เป้าหมายของเมมเบอร์แต่ละคน และต้องประสานงานระหว่างเมมเบอร์ที่ทำให้แฟนคลับสนับสนุนวงอยู่เสมอกับผู้บริหารวงที่เป็นเจ้าของทุนและอำนาจการตัดสินใจทั้งหมดของวง

สิ่งนี้ได้รับการยืนยันโดย AKB48Group Center Exam ซึ่ง Mukaichi Mion คือผู้ที่ทำคะแนนสูงที่สุดในการสอบครั้งนี้ นั่นคือ 157/200 คะแนน ซึ่งมีคะแนนที่มากกว่าเมมเบอร์ที่อยู่ในวงมานานเสียอีก แต่ข้อสอบไม่ได้ยืนยันถึงความรักที่มีต่อวง เพราะเมมเบอร์ใน AKB48 ต่างก็มีความรักในวงและแฟนคลับอยู่แล้ว สิ่งที่จะแสดงออกถึงความรัก คือการกระทำและสร้างความสุขให้กับแฟนคลับที่ติดตาม
ผลการสอบ AKB48Group Center Exam

ความนิยมของ Mukaichi Mion ที่สูง

ไม่ใช่เพียงความรู้เท่านั้น ที่ทำให้วงก้าวไปข้างหน้า แต่การยอมรับคือสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน แม้จะมีความรู้มากเพียงใด แต่การขาดการยอมรับจากทั้งแฟนคลับและเมมเบอร์ด้วยกันเองนั้น ก็ไม่สามารถควบคุมจิตใจของวงได้อย่างแท้จริง

ความนิยมของ Mukaichi Mion ยังคงสูงมาก โดยสังเกตได้จากอันดับการเลือกตั้งที่อยู่ในช่วง 20 อันดับแรกในการเลือกตั้งครั้งที่ 8-10

อันดับการเลือกตั้งเซมบัตสึ
ครั้งที่ 6 - ไม่ติดอันดับ
ครั้งที่ 7 - อันดับที่ 44
ครั้งที่ 8 - อันดับที่ 13
ครั้งที่ 9 - อันดับที่ 17
ครั้งที่ 10 - อันดับที่ 13

ตั้งแต่ Mukaichi Mion ได้เป็นเซนเตอร์ซิงเกิ้ลที่ 44 อย่าง Tsubasa wa Iranai (翼はいらない) จนถึงปัจจุบันนั้น Mukaichi Mion ก็ได้รับโอกาสให้เป็นเซมบัตสึมาโดยตลอด ยกเว้นซิงเกิ้ล #SukiNanda (#好きなんだ) เท่านั้นที่ได้เป็นเซนเตอร์ของ Undergirls ซึ่งสิ่งนี้ได้รับการยืนยันว่า เธอมีความสามารถมากพอที่จะทำให้สตาฟยอมรับ และด้วยการที่เธอยังเป็นดาราตั้งแต่เด็ก (ทั้งในโลกของละครและโฆษณา) จึงทำให้เธอมีความมั่นใจในตนเองที่จะแสดงออกต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก
Mukaichi Mion ในฐานะเซนเตอร์ซิงเกิ้ล Tsubasa wa Iranai (翼はいらない) 

สิ่งที่ Mukaichi Mion ต้องพิสูจน์ตัวเอง

การประกาศว่าอยากจะเป็นผู้จัดการทั่วไปของ AKB48Group เป็นเพียงการประกาศตัวเลือกใหม่ให้กับแฟนคลับและเมมเบอร์ด้วยกันรับทราบ แต่สิ่งที่ต้องพึงพิจารณาเสมอ คือความเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ที่จะเกิดขึ้น ซึ่ง Mukaichi Mion ต้องระลึกเสมอว่า ไม่ใช่แค่ Mukaichi Mion เท่านั้นที่อยากเป็นหรือถูกวางตัวให้เป็นผู้จัดการทั่วไป แต่ยังมีเมมเบอร์อีกหลายคนที่พร้อมและเข้ามาเป็นผู้จัดการทั่วไปได้เช่นนั้น ปัจจัยเหล่านี้ คือสิ่งที่ต้องมีและแสดงให้เป็นประจักษ์ชัดเจนเสียก่อน เพื่อให้เมมเบอร์ในวงยอมรับ Mukaichi Mion ในฐานะผู้จัดการทั่วไปได้อย่างไม่ต้องสงสัย

ตำแหน่งหัวหน้าทีม/วง

การส่งไม้ต่อในฐานะผู้จัดการทั่วไป เป็นเรื่องที่ยากและจริงจังเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็น Akimoto Yasushi (秋元 康) ที่เป็นเจ้าของ AKB48Group, สตาฟที่ต้องทำงานร่วมกับเมมเบอร์ทุกวันทั้งในและนอกเธียเตอร์, หรือแม้แต่เมมเบอร์ด้วยกันเอง ต้องเห็นชอบและยอมรับทั้งในความคิดและความเป็นผู้นำ

การย้ายทีมหรือแม้แต่การแต่งตั้งกัปตันทีม ล้วนเป็นสิ่งที่สตาฟพิจารณาว่าใครมีความเหมาะสมกับงานด้านไหน ซึ่งแน่นอนว่าสตาฟก็คือบุคคลที่ทำงานด้านทรัพยากรบุคคล (HR) และมักมีอายุมากกว่าเมมเบอร์เสียอีก ดังนั้นสตาฟก็จะทราบว่าใครโดดเด่นในเรื่องอะไร และเรื่องความเป็นผู้นำก็เช่นกัน

การย้ายทีมครั้งล่าสุดในคอนเสิร์ตครบรอบ 12 ปีของ AKB48 (8 ธันวาคม ค.ศ. 2018) เป็นการปฏิรูปและปฏิวัติในเวลาเดียวกัน

สิ่งที่ปฏิวัติ คือการตัดการพึ่งพาทั้งหมดจากวงน้องสาวของ AKB48 บนสเตจ โดยการยกเลิกการควบวงของเมมเบอร์วงน้องสาวทั้งหมด และนำเมมเบอร์ทีม 8 เค้ามาควบแทน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความนิยมบนสเตจอย่างหลักเลี่ยงไม่ได้ แต่นี่ก็คือสิ่งที่ชัดเจนว่า AKB48 หลังจากนี้จะต้องยืนด้วยตนเองทั้งหมด

สิ่งที่ปฏิรูป คือการเปลี่ยนหัวหน้าทีมใหม่ทั้งหมด โดยย้าย Takahashi Juri (高橋朱里) ไปเป็นหัวหน้าทีม B พร้อมทั้งแต่งตั้ง Okabe Rin (岡部麟), Komiyama Haruka (込山榛香), และ Murayama Yuiri (村山彩希) เป็นหัวหน้าทีม A, ทีม K, และทีม 4 ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม กลับไม่มีรายชื่อของ Mukaichi Mion ในการเป็นหัวหน้าทีมแต่อย่างใด ดังนั้น ผู้เขียนจึงมองว่า สตาฟยังไม่เห็นความเป็นผู้นำที่ชัดเจนในตัวของ Mukaichi Mion ซึ่งสิ่งนี้จะต้องได้รับการพิสูจน์โดย Mukaichi Mion เพื่อแสดงให้เห็นว่าสามารถนำทีมได้ เมื่อนำทีมได้ก็ย่อมมีประสิทธิภาพที่จะนำวงได้เช่นกัน

บารมีในตัว Mukaichi Mion

บารมี พระเดช และพระคุณ คือสามสิ่งที่จะชี้วัดถึงความเป็นผู้นำของเมมเบอร์ได้อย่างแท้จริง หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป ความเป็นผู้นำหายไปทันที

สำหรับ Mukaichi Mion แล้ว ไม่ว่าจะเป็นพระเดชหรือพระคุณในตัวของเธอเอง ก็ยังถือว่าไม่สูงมากจนสตาฟเห็นได้อย่างชัดเจน เพียงแต่ความสามารถของเธอนั้น ทำให้สตาฟเลือกเธอทำงานแสดงและเป็นเซมบัตสึได้ทุกครั้งในปัจจุบัน ดังนั้นมีเพียงบารมีเท่านั้นที่ได้รับการยอมรับจากสตาฟและแฟนคลับ

พระเดช (Position Power) คืออำนาจที่เกิดจากการมีตำแหน่งที่สูงกว่า ซึ่งการมีพระเดชได้นั้น ก็คือการเป็นหัวหน้าทีม/วง

พระคุณ (Personal Power) คืออำนาจที่เกิดจากการยอมรับในตัวบุคคล (ต่อให้ไม่มีอำนาจ ก็เป็นที่เคารพได้) ซึ่งการมีพระคุณก็ย่อมหมายถึงการช่วยเหลือหรือแม้แต่การให้คำปรึกษากับเมมเบอร์ในยามทุกข์ยาก

Mukaichi Mion เป็นรุ่นพี่ของใครบ้าง คำตอบก็คือ รุ่นพี่ของรุ่นที่ 16 อย่างแน่นอน และเป็นรุ่นพี่ของเด็กดราฟท์ทุกคน (หากพิจารณาเฉพาะรุ่นโดยไม่คำนึงถึงอายุ) ซึ่งแน่นอนว่ายังเป็นรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์ในฐานะรุ่นพี่ที่ยังน้อยอยู่ หากเป็นผู้จัดการทั่วไป ก็ความหมายความว่า ต้องเป็นรุ่นพี่ของทุกคนได้ ซึ่งในเวลานี้ Mukaichi Mion ยังขาดเรื่องของประสบการณ์ในฐานะรุ่นพี่นั่นเอง ดังนั้นเรื่องของพระคุณจึงยังไม่สูงมาก เช่นเดียวกับพระเดชที่ยังไม่เคยได้สัมผัส

ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว Mukaichi Mion จะต้องมีท่าทีอย่างไร เพื่อให้สตาฟยอมรับและผลักดันเธอในการเป็นกัปตันทีม/วง เพื่อปูทางสู่การเป็นผู้จัดการทั่วไปในอนาคต

โอกาสที่ Mukaichi Mion จะก้าวเป็นผู้นำ

สตาฟของ AKB48 ในเวลานี้ ไม่ได้มีหน้าเพียงแค่การสนับสนุนหรือหางานภายนอกให้กับเมมเบอร์เท่านั้น (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมมเบอร์ที่โดดเด่น) แต่ยังต้องผลักดันเมมเบอร์ที่มีศักยภาพ ซึ่งก็คือทุกคนในวงนั่นเอง เพื่อให้มีโอกาสได้แสดงออกและโดดเด่นในวงการบันเทิงอย่างเหมาะสม

ในตอนนี้ สตาฟเห็นว่า Mukaichi Mion โดดเด่นและดีพอที่จะก้าวอยู่ในวงการบันเทิงได้อย่างเข้มแข็งโดยไม่ต้องพึ่งพาการผลักดันจากสตาฟตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พอจะทำได้ในเวลานี้เพื่อให้สตาฟคาดหวังในการเป็นผู้นำ ก็มาจากโอกาสสองอย่างด้วยกันดังนี้

สิ่งแรก ควรแสดงถึงการผลักดันเมมเบอร์รุ่นน้อง - การเป็นผู้จัดการทั่วไปของวงไม่ใช่เพียงแค่ต้องสามารถให้คำปรึกษาได้ทุกเมื่อเท่านั้น แต่ยังต้องเสียสละตนเองที่จะอยู่อย่างถ่อมตน (หรือไม่ถือตัว) เพื่อให้รุ่นน้องโดดเด่นกว่าหรือมีโอกาสได้เจิดจรัสมากขึ้น

สิ่งนี้เป็นสิ่งที่แยกได้อย่างชัดเจนว่า Mukaichi Mion ควรเป็นผู้จัดการทั่วไปของ AKB48Group ที่ดูแลไอดอลรุ่นใหม่ในวง หรือควรเป็นเพียงศิลปินไอดอลทั่วไปที่โดดเด่นในวงการบันเทิง
Mukaichi Mion ในรายการ AKBINGO! วันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 2018 ซึ่งเป็นเทปที่แสดงถึงพลังของเมมเบอร์รุ่นที่ 16
Mukaichi Mion กำลังโดดเด่นในรายการ AKBINGO! ในช่วงนี้ ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้เธอได้ออกรายการและมีแอร์ไทม์เยอะพอสมควร แต่สิ่งที่สำคัญกว่าในการเป็นผู้จัดการทั่วไปในอนาคต คือการสนับสนุนเมมเบอร์รุ่นน้องให้โดดเด่นมากขึ้น หรือพูดง่าย ๆ คือพยายามหาจังหวะในการพูดกับเมมเบอร์รุ่นน้องให้กล้าที่จะพูดผ่านหน้ากล้องมากขึ้น (นั่นคือ ต้องสละแอร์ไทม์ตัวเองส่วนหนึ่งเพื่อสิ่งนั้น)

สิ่งที่สอง หาโอกาสเป็นหัวหน้าทีม/วง - Mukaichi Mion ควรจะหาโอกาสเป็นผู้นำ เพื่อได้ฝึกและแสดงความรับผิดชอบที่มีต่อวง ซึ่งเป็นทางที่ดีที่สุดที่จะได้ใช้ความรู้ที่มีในวงอย่างเป็นประโยชน์ แต่ดูเหมือนว่าเวลานี้ โชคชะตาจะไม่เป็นใจที่จะได้รับโอกาสนี้เลย ซึ่งตำแหน่งกัปตันทีมรอบนี้ น่าจะอยู่อย่างน้อย 2-3 ปี

สตาฟของ AKB48 เองก็น่าจะมีทีมจิตวิทยาที่ประเมินความสามารถและนิสัยของเมมเบอร์ ในช่วงแรก ๆ ของการเป็นไอดอลนั้น ถือว่าเป็นจุดที่สำคัญที่สุดของอาชีพ เนื่องจากมีทั้งความกดดันกับกฎระเบียบที่มากมายและงานที่จะมากขึ้นอย่างชัดเจน (ทั้งการซ้อมหรือการออกงานสู่ภายนอก) เมมเบอร์หลายคนจบการศึกษาออกไป เพราะมีเวลาให้กับการเรียนไม่มากพอ หรือกดดันกับชีวิตเบื้องหลังของไอดอล (ที่ไม่ได้สวยหรูอย่างที่เห็นบนสเตจ) และการประเมินในความเป็นผู้นำ ก็มีอยู่ในการประเมินทางจิตวิทยา ซึ่งจะช่วยพิจารณาว่าสตาฟควรเลือกใครเป็นผู้แบกความหวังของวงไอดอลนี้

* การเป็นไอดอลที่โด่งดังนั้นว่ายากแล้ว การเป็นหัวหน้าวงไอดอลที่ประสบความสำเร็จนั้นยากยิ่งกว่า *

เมมเบอร์อื่น ๆ ที่น่าจะเป็น Soukantoku ได้เช่นกัน

ตราบใดที่ผู้บริหาร สตาฟ หรือ Yokoyama Yui (横山由依) ยังไม่ได้ประกาศว่าใครคือผู้จัดการทั่วไปคนถัดไป ทุกคนในวงก็เป็นไปได้ที่จะกลายเป็นผู้จัดการทั่วไปทั้งนั้น และนี่คือที่มาของการกล่าวคำว่า Schrödinger's cat ในชื่อตอนนี้ เพราะความเป็นไปได้ทั้งหมดถูกซ้อนทับในเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ โดยไม่มีใครรู้ว่าจะออกไปในทิศทางใด หากยังไม่ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ

และเหตุการณ์ที่ Yokoyama Yui (横山由依) ประกาศจบการศึกษาในอนาคต พร้อมกับการบอกว่าใครคือผู้จัดการทั่วไปคนถัดไปนั้น ก็ไม่มีความแน่นอนว่าเมื่อไร และอย่างไร ยกเว้นในใจของ Yokoyama Yui (横山由依) เอง โดยผู้เขียนจะคาดเดาถึงภาพเหตุการณ์ที่เป็นไปได้ทั้งหมดที่ซ้อนทับกันนี้ ซึ่งก็คือตัวเลือกของผู้จัดการทั่วไปที่เป็นไปยอมรับได้ นอกเหนือจาก Mukaichi Mion ดังนี้

Okada Nana (岡田奈々) 

เดอะแบกคนเดียวจาก AKB48 ในการเลือกตั้งครั้งที่ 10 ที่ประกาศให้โลกรับรู้ว่า เป้าหมายในการเลือกตั้งครั้งนี้ของเธอ คือที่ 1 ในการเลือกตั้ง แม้ว่าจะไม่สำเร็จตามเป้าหมาย แต่การได้ที่ 5 ก็เป็นอันดับที่สูงที่สุดในบรรดาเมมเบอร์ AKB48 ทั้งหมด (นับเฉพาะเมมเบอร์ AKB48 เท่านั้น)
Okada Nana
ผู้เขียนเชื่อว่า Okada Nana อาจจะถูกวางให้เป็นผู้จัดการทั่วไปคนต่อไปด้วยความเป็นไปได้ที่มากกว่า Mukaichi Mion เนื่องจาก 2 ปัจจัยดังนี้

ปัจจัยแรก ความจริงจัง - ผู้บรรยาย, MC, หรือแม้แต่เมมเบอร์ด้วยกันเอง ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า Okada Nana เป็นคนที่จริงจัง (真面目, Majime) อย่างชัดเจน โดยไม่ต้องสืบจากผลทดสอบทางจิตวิทยาเลย

แน่นอนว่าการเป็นผู้นำอย่างผู้จัดการทั่วไปก็ต้องจริงจัง เพราะเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตของ AKB48Group เนื่องจาก การตัดสินใจในการกระทำบางอย่างนั้น ผู้จัดการทั่วไปในฐานะผู้แทนเมมเบอร์ทั้งปวงย่อมมีส่วนในการตัดสินใจด้วย (พึงระลึกเสมอว่า แม้ว่ากิจกรรมบางอย่างเป็นสิ่งที่ทำให้ได้รับเงินเป็นจำนวนมาก แต่หากฝืนต่อความรู้สึกของเมมเบอร์เอง ก็ส่งผลต่อกำไรและอนาคตของวงได้)

Okada Nana - King of Majime จากรายการ AKBINGO! (ตอนที่ 266-269)
และความจริงจังของเธอยังหมายถึงการทุ่มเททุกอย่างเพื่อ AKB48 ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงความรักที่มีต่อ AKB48 ของเธอได้ดีเช่นเดียวกับเมมเบอร์หลาย ๆ คนในวงที่ต้องการสร้างความ

ปัจจัยที่สอง กัปตัน STU48 - สตาฟจะไม่มีวันส่งใครที่ไม่พร้อมจะเป็นผู้นำหรือมีประสิทธิภาพไปทำงานในฐานะหัวหน้าวง หรือเมมเบอร์ควบ ซึ่งจากปัจจัยแรกนั้น ก็มีส่วนที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการพิจารณาของสตาฟที่เลือก Okada Nana ไปควบตำแหน่งกัปตัน STU48 ที่ก่อตั้งในปี ค.ศ. 2017 เพื่อสร้างฐานเสียงที่เข้มแข็งให้คำปรึกษาเมมเบอร์รุ่นใหม่ของวงนี้
Okada Nana ในชุดของ STU48
จริง ๆ แล้ว ยังมีเมมเบอร์อีกหลายคนที่เป็นตัวเลือกที่ดีต่อการเป็นกัปตัน STU48 แต่สตาฟกลับเลือกเมมเบอร์รุ่นที่ 14 คนนี้ ซึ่งเป็นรุ่นใหม่และมีอายุงานในวงมากพอสมควรเข้ารับงานนี้ ซึ่งสตาฟก็พิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วและได้รับการพิสูจน์ให้เห็นว่าสตาฟทำถูกต้องแล้วที่เลือกเธอควบงานกับ STU48 แม้ว่าจะไม่ได้ปักหลักอย่างถาวรด้วยเหตุผลที่ AKB48 ยังต้องการเมมเบอร์แบบ Okada Nana เพื่อการตลาดและความนิยม
Yokoyama Yui, Takahashi Minami, และ Okada Nana กับเพลง "Bird" ซึ่งเป็นเพลงที่ติดอันดับ Request Hour ที่ 51 ในงานแสดงเมื่อวันที่ 24 มกราคม ค.ศ. 2015 ซึ่งภาพนี้ทำให้เชื่อกันว่า Okada Nana อาจเป็นผู้จัดการวงคนถัดไปก็เป็นได้


Takahashi Juri (高橋朱里)

หากพิจารณาถึงประสบการณ์ความเป็นผู้นำในวงแล้ว สตาฟก็อาจจะเลือก Takahashi Juri ขึ้นมาเป็นผู้จัดการทั่วไป ซึ่งก็ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายของใครหลายคนในเวลานี้ เนื่องจาก AKB48 Shinbun Award 2015 ก็เคยมอบประกาศรางวัล Next Next Soukantoku? กับเธอมาแล้ว
Takahashi Juri
อายุของ Takahashi Juri กับ Okada Nana ถือว่าไม่แตกต่างกันมาก โดย Takahashi Juri เกิดก่อนเพียง 35 วันเท่านั้น แต่ประสบการณ์ในการเป็นผู้นำของเธอถือว่าสูงมาก ความสามารถของเธออยู่ในสายตาของสตาฟที่จะวางตัวเป็นผู้จัดการทั่วไปด้วยเหตุผลหลัก ๆ สองอย่างดังนี้

ประการแรก กัปตันทีม - ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม ค.ศ. 2015 ถึง 2 เมษายน ค.ศ. 2018 เธอคือกัปตันทีม 4 ที่ถูกมองว่าเป็นทีมสำหรับเด็กรุ่นใหม่ที่พร้อมจะผลักดันเมมเบอร์เข้าสู่ความยิ่งใหญ่ได้ในอนาคต

แต่อาจด้วยสถานการณ์ของ AKB48 เองก็ทำให้เธอยังได้รับโอกาสเป็นกัปตันทีม B ในช่วงที่มีการประกาศย้ายทีมในวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 2017 ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตครบรอบ 12 ปีของ AKB48 

การย้ายทีมรอบนี้ เป็นการตัดขาดการพึ่งพาความนิยมของวงน้องสาว และหันหน้าพึ่งพาการควบทีม 8 แต่อีกสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน คือการปรับหัวหน้าทีม ซึ่งเปลี่ยนโฉมหน้าวงโดยให้เมมเบอร์รุ่นใหม่ได้มีโอกาสเข้ามาเป็นผู้นำแทน และครั้งนี้ Takahashi Juri ก็ถูกแต่งตั้งให้เป็นตำแหน่งกัปตันทีม B ที่ในเวลานั้นที่ขาดเสาหลักไปหลายคน (เนื่องจากการจบการศึกษา) 

[สำหรับหัวข้อวิกฤตทีม B โปรดอ่าน: https://48studies.blogspot.com/2018/06/akb48-new-star-1.html]

การเป็นผู้นำในขณะที่เกิดปัญหานั้น ไม่เพียงช่วยให้ Takahashi Juri มีความเหมาะสมในการเป็นผู้นำที่สตาฟวางใจได้เท่านั้น แต่ยังสร้างบุคลิกในการเป็นผู้คนที่กล้าตัดสินใจในเวลาวิกฤตซึ่ง AKB48 อาจต้องเผชิญในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นความนิยมหรือแม้แต่การตลาด

ประการที่สอง ความเชื่อของ AKB48 - ไม่มีความเชื่อความศรัทธา ก็ไม่มีพลังในการต่อสู้ โดยการเป็นผู้จัดการทั่วไปนั้น มีเรื่องของความเชื่อขึ้นมาด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือสิ่งที่คาดหมายไม่ได้

ผู้จัดการทั่วไปคนแรกอย่าง Takahashi Minami ก็ถูกมองว่ามีเครื่องหมายบ่งบอกถึง AKB48 ผ่านความสูงของเธอที่เป็น 148.5 ซม. และวันเกิดที่เป็นวันที่ 8 เมษายน (หากเขียนวันที่ตามแบบญี่ปุ่น ก็คือ เดือน 4 วันที่ 8 หรือ 4/8) ซึ่งก็สื่อถึงเลข 48 อันเป็นเลขสัญลักษณ์ประจำวง (เลข 48 มีที่มาจากหนึ่งในผู้ก่อตั้ง AKS ที่ชื่อว่า Shiba Kotaro (芝幸太郎) ซึ่ง Shiba สามารถพ้องเสียงเป็น 4 และ 8 ในภาษาญี่ปุ่น กลายเป็น 48) 

ผู้จัดการทั่วไปคนปัจจุบัน Yokoyama Yui (横山由依) ก็มีสิ่งบ่งบอกถึง AKB48 อย่างชัดเจน นั่นคือวันเกิดของเธอซึ่งก็คือวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 1992 โดยวันที่ 8 ธันวาคม เป็นวันก่อตั้ง AKB48 (วันที่เมมเบอร์ของ AKB48 ได้ทำการแสดงบนเธียเตอร์เป็นวันแรก)

แล้ว Takahashi Juri มีสิ่งที่บ่งบอกความเป็นผู้นำของ AKB48 ไหม? คำตอบก็ชัดเจนในตัวอยู่แล้ว ก็คือคำว่า "Takahashi" ที่มีคันจิที่เหมือนกันกับผู้จัดการทั่วไปคนแรกอย่าง Takahashi Minami ดังนั้นหากเธอถูกวางตัวเป็นผู้จัดการทั่วไป ก็เชื่อว่าสาเหตุหนึ่งก็เพราะว่าชื่อไปพ้องกันกับผู้จัดการทั่วไปคนแรก เพื่อให้ยุคของ AKB48 กลับมายิ่งใหญ่นั่นเอง
Takahashi Juri, Takahashi Minami, และ Yokoyama Yui กับการออกรายการ Mirai Monster 「ミライ☆モンスター」 ในวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 2018 


Murayama Yuiri (村山彩希)

นอกเหนือจากเมมเบอร์ที่มีอันดับการเลือกตั้งในระดับเซมบัตสึแล้ว ยังมีเมมเบอร์ที่รักในการแสดงบนเธียเตอร์เหนือกว่าสิ่งอื่นใด ที่ถูกมองว่าควรเป็นผู้จัดการวงคนถัดไป และนั่นคือ Murayama Yuiri
Murayama Yuiri
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2018 เป็นต้นมา Murayama Yuiri มีบทบาทที่โดดเด่นอย่างชัดเจนมากขึ้น ในฐานะที่เป็นเมมเบอร์ที่มีพื้นฐานจากการแสดงบนเธียเตอร์เป็นหลัก ซึ่งทำให้เธอได้รับการยอมรับจากสตาฟในฐานะเมมเบอร์ที่มีจิตใจที่เข้มแข็งและทุ่มเทให้กับเธียเตอร์ของ AKB48 ให้มีสีสัน แม้ว่าจะไม่ได้เข้าร่วมในศึกการเลือกตั้ง แต่ Murayama Yuiri ก็ยังมีจุดเด่นที่แตกต่างจากเมมเบอร์ทั่วไปที่สามารถถูกเลือกให้เป็นผู้จัดการทั่วไปได้ทุกเมื่อดังนี้

ประการแรก กัปตันทีม 4 และเทพีแห่งเธียเตอร์ - สตาฟมองว่า ไม่มีใครเหมาะสมที่ได้คุมทีมที่ถูกมองว่าเป็นทีมสำหรับเมมเบอร์อายุน้อย นอกเหนือจาก Murayama Yuiri อีกแล้ว ด้วยประสบการณ์บนเธียเตอร์ที่สูงมาก จนสามารถจัดสเตจให้กับ Kenkyusei ด้วยตนเองในชื่อ Let's Go Kenkyusei! (レッツゴー研究生!公演) ในปี ค.ศ. 2017

การที่สตาฟยินยอมให้ Murayama Yuiri จัดสเตจด้วยตนเองนั้น แสดงว่าเธอต้องมีความสามารถที่ไม่ธรรมดา และผู้เขียนเชื่อว่า อย่างน้อยที่สุดแล้ว Murayama Yuiri ก็สามารถทำงานในฐานะผู้จัดการเธียเตอร์ร่วมได้เลย (เช่นเดียวกับที่ Sashihara Rino (指原莉乃) เป็นอยู่ในวันนี้กับ HKT48) 
Murayama Yuiri ในฐานะ Producer ของสเตจ Let's Go Kenkyusei!
ผลงานนี้ก็นำไปสู่ความเห็นของสตาฟที่ต้องการให้ Murayama Yuiri เป็นกัปตันทีม 4 ด้วย เพื่อแสดงถึงการยอมรับในความเป็นผู้นำในตัวของเธอ และยังทำให้ Murayama Yuiri ติดเซมบัตสึทั้งซิงเกิ้ลที่ 51 และ 52 ที่วางจำหน่ายในปี ค.ศ. 2018 อีกด้วย

ประการที่สอง ความเป็นพี่สาวของวง - การเป็นเดอะแบกของวงที่ดี ต้องเข้าใจในความรู้สึกของผู้อื่น และสามารถผลักดันเมมเบอร์คนอื่นให้โดดเด่นได้ ซึ่งการที่เธอไม่ลงเลือกตั้งเพื่อตั้งใจในการแสดงบนเธียเตอร์นั้น นอกจากการทุ่มเทเรื่องสเตจแล้ว ยังต้องการรักษาคุณค่าของวงที่บอกว่า "ไอดอลที่คุณไปพบได้" (会いに行けるアイドル) และที่ที่จะได้พบ ก็คือเธียเตอร์นั่นเอง

ในรายการ AKBINGO! วันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 2018 ซึ่งเป็นเทปที่แสดงถึงพลังของเมมเบอร์รุ่นที่ 16 Murayama Yuiri เข้าไปปลอบ Yasuda Kana (安田叶) ที่ตอบคำถามผิดจนทำให้ภารกิจล้มเหลว
เมมเบอร์ที่สามารถเข้าใจและเป็นที่พึ่งให้ในยามทุกข์ได้ ก็แสดงให้เห็นถึงความรักความผูกพันที่มีต่อวง นอกเหนือจากเมมเบอร์ในวงแล้ว ก็ยังหมายถึงวงอีกด้วย และผู้เขียนเชื่อว่าความรักของ Murayama Yuiri ที่มีต่อเมมเบอร์รุ่นใหม่ ๆ นั้น ก็ชัดเจนถึงความเป็นไปได้ที่เธออาจถูกวางให้เป็นผู้จัดการทั่วไปของวงคนต่อไป

บทส่งท้าย 

ไม่มีความแน่นอนสำหรับการเป็นผู้จัดการวงคนต่อไปของ AKB48Group จนกว่า Yokoyama Yui จะประกาศว่าใครคือคนที่เหมาะสม ในเวลานี้จึงทำได้เพียงแค่สังเกตว่า ใครคือตัวเต็งที่เป็นไปได้ ไม่ใช่เพียง Mukaichi Mion ที่ประกาศว่าจะเป็นผู้จัดการทั่วไปเท่านั้น แต่แฟนคลับยังมีทิศทางและมุมมองที่แตกต่างกันไปของวง โดยทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าในกล่องของ AKB48 นั้น Schrödinger's cat ที่เป็นผู้จัดการทั่วไปคนต่อไปนั้น จะหมายถึงใครกันแน่..

ตอนต่อไป

กับการนำเสนอตอนที่ 2 ของซีรี่ส์นี้ นั่นคือ สมมติฐานถ่ายโอนคะแนนโหวตของแฟนคลับ: ความจริงมีเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น? (ไอเดียโดย Sayomphu Juito และ Saraporn Keawsiripong) โดยจะเล่าถึงความจริงของการลงคะแนนเลือกตั้งที่ต้องเสียเงิน เพื่อให้เมมเบอร์นั้นถูกขานชื่อตอนประกาศผลการเลือกตั้ง แต่ความจริงมีเพียงครึ่งเดียวกับการขอคะแนนเสียงแบบถ่ายโอนคะแนนระหว่างกลุ่มแฟนคลับ

Comments

Popular posts from this blog

บทวิเคราะห์: เหตุผลที่ไม่มีทางที่จะได้เห็น Produce46..

Majimuri Gakuen (マジムリ学園) กับเค้าโครงประวัติศาสตร์จริง

Shiawase no Hogoshoku (しあわせの保護色) - กับตัวตนต่าง ๆ ของ Shiraishi Mai