SKE48 กับบทสรุปแห่งการแปลงร่างกันไปแปลงร่างกันมา
หากใครติดตาม SKE48 ตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018 ซึ่งเป็นวันที่บริษัท KeyHolder จำกัด ได้เผยแพร่เอกสารจำนวน 3 หน้า อันเป็นสรุปข้อตกลงในการถ่ายโอนการบริหาร SKE48 จาก บริษัท AKS จำกัด เพื่อเตรียมตัวในการเริ่มธุรกิจครั้งใหม่
(http://www.keyholder.co.jp/dl/20181113_ske48.pdf?s.5bea4fe00e614104n23k)
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาก็ผ่านไปแล้วเกือบ 8 เดือน และวันที่ 5 กรกฎาคม ค.ศ. 2019 ก็เป็นวันสำคัญที่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางองค์กรครั้งใหญ่ของ SKE48 เลยก็เป็นได้ และผู้เขียนคิดว่าถึงเวลาที่จะต้องสรุปเรื่องราวของการเปลี่ยนถ่ายของ SKE48 ครั้งใหญ่นี้ โดยรวบรวมสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ประกาศลงนามเตรียมเข้าดูแล SKE48 จนถึงการเปลี่ยนแปลงไปยัง Zest
(http://www.keyholder.co.jp/dl/20181113_ske48.pdf?s.5bea4fe00e614104n23k)
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาก็ผ่านไปแล้วเกือบ 8 เดือน และวันที่ 5 กรกฎาคม ค.ศ. 2019 ก็เป็นวันสำคัญที่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางองค์กรครั้งใหญ่ของ SKE48 เลยก็เป็นได้ และผู้เขียนคิดว่าถึงเวลาที่จะต้องสรุปเรื่องราวของการเปลี่ยนถ่ายของ SKE48 ครั้งใหญ่นี้ โดยรวบรวมสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ประกาศลงนามเตรียมเข้าดูแล SKE48 จนถึงการเปลี่ยนแปลงไปยัง Zest
FA Project - พันธมิตรใหม่แห่งวงการบันเทิง
เรื่องราวที่เกิดขึ้น อ้างอิงมาจากบทความ "48 เรื่องราวที่น่าสนใจของ AKB48 Group ในปี ค.ศ. 2018"
(https://48studies.blogspot.com/2018/12/48-stories-in-2018.html)
ในวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018 ทาง KeyHolder ได้เผยแพร่ข้อตกลงในการถ่ายโอนการบริหาร SKE48 จาก AKS
(http://www.keyholder.co.jp/dl/20181113_ske48.pdf?s.5bea4fe00e614104n23k)
เดิมที KeyHolder มีเพียง Keynote ที่ตั้งขึ้นเพื่อใช้รับซื้อ/ขาย/นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทำมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1996 แต่ในปี ค.ศ. 2018 KeyHolder ทำการตั้งบริษัทลูก 3 บริษัทในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน ประกอบด้วย KeyStudio ที่รับจัดคอนเสิร์ตสด, KeyProduction ที่ผลิตรายการโทรทัศน์, และ FA Project
(http://www.keyholder.co.jp/en/company/profile.html)
FA Project เป็นบริษัทร่วมที่ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 18 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 โดยมีผู้ถือหุ้นในวันก่อตั้งดังนี้
- KeyHolder (62%)
- Akimoto Yasushi (21%)
- Akimoto Nobuyuki (ตัวแทนผู้อำนวยการ Y&N Brothers) (6%)
- Akatsuka Yoshihiro (CEO บริษัท Allfuz จำกัด) (3%)
- Y&N Brothers (6%)
- A.M.Entertainment (2%)
ดังจะเห็นได้ว่า การมาของ FA Project ก็คือการที่ KeyHolder เตรียมจัดทัพลุยสู่วงการบันเทิงโดยใช้พื้นฐานของคนทำงานในวงการบันเทิงอย่าง Akimoto Yasushi
อีกทั้งจากเอกสารที่เผยแพร่ในวันที่ 18 มิถุนายน ค.ศ. 2018 ทาง KeyHolder มีมติ "เชิญ" Akimoto Yasushi เป็นที่ปรึกษาพิเศษ
(รวมทั้งยืนยันการเป็นพันธมิตรกับ Allfuz และ Y&N Brothers อีกด้วย)
(http://www.keyholder.co.jp/dl/20180618_%20joint%20venture.pdf?s.5b2763d199aa81ck7j7h)
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ การมาของ Allfuz ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่คุ้นหูเท่าไรนัก โดยเป็นพันธมิตรที่สำคัญในการพา KeyHolder เข้าสู่โลกของธุรกิจบันเทิง จากข้อมูลที่ KeyHolder ให้มานั้น Allfuz เป็นบริษัทร่วมหุ้นโดยมีผู้ถือหุ้นดังนี้
- Akatsuka Yoshihiro
- บริษัท Avex Entertainment จำกัด
- บริษัท Production Ogi จำกัด
- บริษัท Universal Music จำกัด
- บริษัท Watanabe Entertainment จำกัด
(http://www.keyholder.co.jp/dl/20180618_businesspartnership_komon.pdf?s.5b27638d1ddba8f58dfj)
อีกทั้งยังสอดคล้องกับการที่ KeyHolder ซึ่งเตรียมลุยธุรกิจบันเทิง นั่นจึงต้องอาศัยพันธมิตรอย่าง Allfuz ที่ทำงานด้านบันเทิงในการให้ความช่วยเหลือ ซึ่งตรงกับช่วงที่มีการลงนามความเข้าใจระหว่างทั้งคู่ เพื่อเตรียมจัดตั้งบริษัทสำหรับวงการบันเทิงเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018
(https://www.reuters.com/article/brief-keyholder-says-business-alliance-w/brief-keyholder-says-business-alliance-with-allfuz-idUSL4N1PZ3GM)
นอกจากนี้ ในเอกสารที่อธิบายการดำเนินงานหลังจากนี้จนถึงปิดงบประมาณของ KeyHolder ระบุไว้ว่า Akimoto Nobuyuki คือน้องชายของ Akimoto Yasushi นั่นจึงเป็นไปได้ว่า คำว่า Y หมายถึง Yasushi และ N หมายถึง Nobuyuki ซึ่งบริษัทนี้จะเห็นบ่อยครั้งในช่วงไม่นานมานี้ นอกเหนือจาก AKS
(http://www.keyholder.co.jp/dl/20181115_52th_2Qsetsumei.pdf?s.5bed31092a11995371ei)
ในเวลานั้น รายชื่อผู้ถือหุ้นของ AKS ก็คือ Yoshinari Natsuko (吉成夏子) 100% และข้อมูลนอกจากนี้ AKS ก็ไม่ได้เปิดเผยเพิ่มเติม
(https://jshowbiz.com/english/news/ske48/item/3918-what-s-happening-in-akb48.html
https://thediplomat.com/2018/09/understanding-japans-struggle-to-reform-the-shareholder-management-relationship/
(https://thelawreviews.co.uk/edition/the-shareholder-rights-and-activism-review-edition-3/1173614/japan)
การมาของ FA Project ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความตั้งใจของ KeyHolder ในการตั้งบริษัทต้นแบบของธุรกิจบันเทิงเท่านั้น แต่เป็นสัญญาณว่า KeyHolder เอาจริงกับ SKE48 ในการต่อยอดความสำเร็จในช่วงทศวรรษที่ 2 ของ SKE48 เอง
เริ่มต้นการถ่ายโอนธุรกิจ และกำเนิด SKE
หลังจากที่มีการลงนามร่างข้อสรุปเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018 ทาง KeyHolder ได้เผยแพร่ข้อสรุปสุดท้ายกับ AKS เป็นเอกสารจำนวน 4 หน้าเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ค.ศ. 2018
(http://www.keyholder.co.jp/dl/20181227_ske48.pdf?s.5c245f6c31b583j79haf)
ในบทสรุปสุดท้าย ทาง KeyHolder เตรียมแผนจัดตั้งบริษัท SKE สำหรับการถ่ายโอนเข้ามาดูแลจัดการ SKE48 โดยที่ยังระบบจัดการและบุคลากรปฏิบัติงานไว้คงเดิม
แต่การจัดงาน, สินค้า, ผลงาน, และรายการโทรทัศน์ จะเป็นบริษัทในเครือร่วมอย่าง KeyStudio และ KeyProduction ที่มีส่วนรับผิดชอบ
"SKE48" จะถูกส่งมอบธุรกิจและลิขสิทธิ์ให้กับบริษัทลูกของ KeyHolder ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2019 ซึ่งเป็นวันที่มีผลบังคับใช้ในบทสรุปข้อสุดท้ายนี้ ในราคา 3 พันล้านเยน โดยจะมีการถ่ายโอนบุคลากรปฏิบัติงาน 21 คน (ทั้งเต็มเวลาและพาร์ทไทม์) จาก AKS ไปยัง SKE ซึ่งเวลานั้นวางแผนจะจดทะเบียนจัดตั้งในวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 2019 ด้วยทุน 100 ล้านเยน อันมี KeyHolder เป็นผู้ถือหุ้นแต่เพียงผู้เดียว
(http://www.keyholder.co.jp/dl/20181227_kh_subsidiary.pdf?s.5c245e6ec7fd5m3ehd7)
SKE จัดตั้งในวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 2019 โดยมี Akatsuka Yoshihiro เป็นประธาน เพื่อรับช่วงต่อจาก AKS และชำระค่าถ่ายโอนธุรกิจ SKE48 ให้กับ AKS
สู่มือ SKE
ในวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2019 ในวันที่ทุกอย่างก็เป็นปกติดี SKE48 กลายเป็นของ SKE ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ KeyHolder เว็บไซต์ SKE48 เปลี่ยนข้อความหลังสัญลักษณ์ลิขสิทธิ์จาก " ©AKS" เป็น " ©SKE" ทั้งภาพโปรไฟล์และใต้เว็บไซต์
ทุกอย่างเป็นไปตามแผนและ KeyHolder ก็เผยแพร่เอกสารหน้าเดียวเกี่ยวกับการเริ่มต้นการบริหาร SKE48 โดย SKE จะใช้สำนักงานใหญ่ตรง KeyHolder และมีเธียเตอร์อยู่ที่เดิม
ทางด้านคณะผู้บริการจะประกอบด้วย Akatsuka Yoshihiro ประธาน Allfuz เป็นประธาน SKE ตามมาด้วย Yoshinari Natsuko จาก AKS และคนของ KeyHolder พร้อมคณะ
(http://www.keyholder.co.jp/dl/20190301_SKE_Notice.pdf?s.5c78ed777bd7121jnc1e)
1 สัปดาห์ถัดมา KeyHolder เผยแพร่เอกสารสองหน้า โดยกล่าวถึงชื่อ SKE เป็นครั้งแรกหลัง SKE48 อยู่ภายใต้ SKE ในหัวข้อ "บันทึกการเปิดโรงเรียนสอนไอดอลและทาเลนท์"
(http://www.keyholder.co.jp/dl/20190308_SKE_school.pdf?s.5c820aab305e317chgah
http://www.keyholder.co.jp/dl/20190308_notice_SKE_school.pdf?s.5c820fc2885d65f62450)
ในรายละเอียดของการเปิดโรงเรียนสอนไอดอล จะมีความร่วมมือกับ SKE48 ในการให้เมมเบอร์เป็นผู้ฝึกสอน และเป็นลู่ทางช่องทางทำมาหากินให้กับเมมเบอร์หลังจบการศึกษา (หากงานบันเทิงมันจะหายากเกินไปขนาดนั้น) อีกทั้งยังมีเป้าหมายที่จะให้นักเรียนในโรงเรียนแห่งนี้สามารถขึ้นมาเป็นเมมเบอร์ SKE48 ได้ในอนาคต
นอกเหนือจากเรื่องของการที่จะเปิดในเดือนตุลาคม, วางแผนเปิด 12 คอร์ส ผ่านคลาสที่มี 4 โปรแกรม (การร้อง, การเต้น, Voice acting, และการแสดง/ทาเลนท์), และจะเปิดแถว ๆ Nagoya ก็ไม่มีข้อมูลเชิงลึกมากกว่านี้
ผลงานของ SKE48 กับ SKE ที่พอมีอยู่ อย่างเช่น เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 ในวันที่สวนสาธารณะ Hisaya Ōdori (久屋大通公園) ในย่าน Sakae ถูกปิดปรับปรุงเพื่อบูรณะใหม่ ในเวลานั้นพื้นที่โดยรอบจะถูกล้อมด้วยผ้าใบเพื่อปิดบังภาพการปรับปรุง แต่ทางนครเมืองอาจจะคิดมากเกินไปกับผ้าใบ เลยว่าจ้าง SKE48 ให้ช่วยมาเป็นแบบบนผ้าใบขนาด 20 เมตร โดยใช้เมมเบอร์ 18 คน
(http://www.keyholder.co.jp/dl/20190509_SKE48_NagoyaPR.pdf?s.5cda89d64ac349hgk213)
ตัวอย่างและสถานที่จะปิดแผ่นผ้าใบ (https://twitter.com/ske48official/status/1126318686170636292) |
ภาพของจริงหน้างาน (https://twitter.com/SAKAE_758/status/1126734374106386432) |
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 SKE48 จับมือกับ FC Gifu อภิมหายอดทีมอันดับที่ 1 (จากท้ายตาราง) แห่ง J-league 2 ในการแต่งตั้งเมมเบอร์ SKE48 เป็นหัวหน้าทีมเชียร์ โดยมี Kitano Ruka เป็นหัวหน้าทีมเชียร์ และ Ota Ayaka เป็นรองหัวหน้าทีมเชียร์ ซึ่งทั้งสองคนมีภูมิลำเนาจากจังหวัด Gifu
(https://www.fc-gifu.com/news_information/47699.html)
ภาพโปรโมทอีเวนท์ระหว่าง SKE48 และ FC Gifu (https://www.fc-gifu.com/news_information/48131.html) |
Allfuz - Tannu what? แห่งโลกบันเทิง
สาธารณรัฐประชาชนตูวา (Tьva Arat Respuвlik) เดิมทีเป็นรัฐบริวารของสหภาพโซเวียตซึ่งก่อตั้งในปี ค.ศ. 1922 ด้วยความช่วยเหลือของสหภาพโซเวียต แต่ถูกผนวกในวันที่ 11 ตุลาคม ค.ศ. 1944 กลายเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต ไม่ใช่รัฐบริวารอีกต่อไป
ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 KeyHolder เผยแพร่เอกสาร แจ้งการเข้าครอง Allfuz เป็นบริษัทในเครือ โดย Allfuz มีบริษัทร่วมหุ้นของตนโดยมีผู้ถือหุ้นดังนี้
- Akatsuka Yoshihiro (45.1%)
- Dentsu (14.8%)
- Avex Entertainment (10.0%)
- Production Ogi (10.0%)
- Universal Music LLC (10.0%)
- Watanabe Entertainment (10.0%)
ผู้ถือหุ้นของ Allfuz ทั้งหมดนี้จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของผู้ถือหุ้นของ KeyHolder โดยปริยาย เนื่องจาก KeyHolder เข้าครองการควบคุม Allfuz ซึ่งหลังจากเจือจางแล้ว ผู้ถือหุ้นเดิมของ Allfuz จะมีส่วนใน KeyHolder และทำให้ส่วนของ KeyHolder มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรกจะเป็นดังนี้
(http://www.keyholder.co.jp/dl/kabukou_allfiz.pdf?s.5c63b6abbc150994lngn)
- J Trust (38.74%)
- United Agency (18.82%)
- Akatsuka Yoshihiro (4.38%)
- Japan Securities Finance (3.49%)
- Dentsu (1.44%)
- Avex Entertainment (0.97%)
- Production Ogi (0.97%)
- Universal Music LLC (0.97%)
- Watanabe Entertainment (0.97%)
- Okada Hiroaki (0.79%)
แม้ว่าในทางปฏิบัติจะมีสัดส่วนที่แตกต่างจากที่วางแผนไว้ แต่ก็ชัดเจนว่าส่วนของ Allfuz เดิมกลายเป็นส่วนของ KeyHolder ซึ่งยืนยันการเป็นเจ้าของของ KeyHolder ต่อ Allfuz
(http://www.keyholder.co.jp/ir/information.html)
ในวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 2019 หลังจากที่ Allfuz ซึ่งเป็นพันธมิตรของ KeyHolder ในการช่วยดูแล SKE48 จนกลายเป็น SKE โดยมี Akatsuka Yoshihiro เป็นประธาน ก็ได้แปรสภาพ Allfuz ให้กลายเป็นบริษัทลูกในเครือ KeyHolder อย่างเต็มตัว
(https://allfuz.co.jp/news/284)
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การที่ Akatsuka Yoshihiro ซึ่งเดิมจากการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างกัน กลายเป็นรองประธานบริหารของ KeyHolder และยังเป็นประธานทั้ง Allfuz (บริษัทเดิม) และ SKE (บริษัทใหม่)
Zest - กว่าจะลงตัวในที่สุด
Zest - อาจารย์ครับ ขออนุญาตแปลงร่างครับ
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 2019 ทาง KeyHolder เผยแพร่เอกสารสองหน้าสำหรับ "บันทึกข้อความการเปลี่ยนชื่อบริษัทในเครือ"
โดยเดิมใช้ชื่อ SKE ซึ่งมี Akatsuka Yoshihiro เป็นผู้บริหารนั้น จะเปลี่ยนชื่อเป็น "บริษัท Zest จำกัด" (Zest, Inc.) โดยไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรนอกเหนือจากนั้น
(http://www.keyholder.co.jp/dl/20190606_Change%20of%20subsidiary%20company%20name.pdf?s.5cf89fdc2346579jn4l3)
หลังจากที่ประกาศเปลี่ยนชื่อเพียง 1 วันเท่านั้น ทาง SKE (ภายใต้ KeyHolder) จึงเรียกใช้บริการรักษาความปลอดภัยจาก SECOM ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการรักษาความปลอดภัยให้กับหลายหน่วยงาน
(http://www.keyholder.co.jp/dl/20190607_ske_secom.pdf?s.5cf9e30a196e140b777k)
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ SKE จะว่าจ้างบริษัทภายนอกรายใหม่เข้ามาดูแล SKE48 ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะก่อนหน้านั้น ในวันที่ 31 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 SKE ว่าจ้างบริษัทให้คำปรึกษาการจัดการจาก Shikigaku (識学) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพองค์กร
(http://www.ske48.co.jp/news/?id=1558487012)
Zest - เปลี่ยนชื่อด้วย เปลี่ยนการบริหารด้วย
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2019 SKE ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Zest โดยที่โลโก้องค์กรก็ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ในวันที่เปลี่ยน แต่ครั้งนี้ เว็บไซต์ SKE48 ก็ได้เปลี่ยนข้อความหลังสัญลักษณ์ลิขสิทธิ์จาก " ©SKE" เป็น " ©2019 Zest, Inc." ทั้งภาพโปรไฟล์และใต้เว็บไซต์
(http://www.keyholder.co.jp/dl/20190701_ske_newsinglevisual.pdf?s.5d1aa638c146f9i29le)
ในวันที่ 5 กรกฎาคม ค.ศ. 2019 ทาง Zest ได้ประกาศเรื่องสำคัญหลายเรื่องด้วยกันดังนี้
(http://www.keyholder.co.jp/dl/20190705_SKE_SKE48newmanager.pdf?s.5d1f42172392c41el8fh)
- ผู้จัดการเธียเตอร์ (ชิไฮนิน) คนปัจจุบัน Yuasa Hiroshi (湯浅洋) จะกลายเป็นที่ปรึกษาพิเศษของ JKT48 ซึ่งอยู่ในเอกสารหน้าเดียว "ประกาศว่าด้วยโปรเจ็คระหว่างกลุ่ม 48 SKE48×JKT48"
(http://www.keyholder.co.jp/dl/20190705_SKE_SKE48JKT48jointproject.pdf?s.5d1f357a79a757lmbe89) - ผู้จัดการเธียเตอร์ (ชิไฮนิน) ของ SKE48 จะถูกเปลี่ยน และเป็น Saito Makiko (斉藤真木子) ผู้จัดการทั่วไปของ SKE48 ที่ได้รับตำแหน่งนี้
(http://www.ske48.co.jp/news/?id=1562336190) - SKE48 ประกาศสมัครออดิชันเมมเบอร์รุ่นที่ 10 ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม เวลา 10 นาฬิกา
(http://www.ske48.co.jp/news/?id=1562302677) - เป็นผู้หญิงอายุ 10 ปีขึ้นไป ไม่กำหนดอายุสูงสุด (นั่นคือคุณยายคุณป้าสามารถสมัครได้) แต่ไม่มีประสบการณ์
- สามารถอยู่ในสัญญาหลังผ่านการคัดเลือกได้
- ไม่จำกัดสัญชาติ
- สามารถเดินทางมายังเธียเตอร์ SKE48 เป็นกิจวัตรได้
- เมมเบอร์รุ่นที่ 10 นี้ จะได้ปรากฏในเพลงรองของซิงเกิ้ลที่ 26
- ประกาศจัดตั้ง Zest Entertainment School โดยเปิดทำการวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 2019
บทส่งท้าย
ตลอดเกือบ 8 เดือน KeyHolder ไม่ได้วางแผนเพียงแค่เอา SKE48 มาอยู่ในสังกัดแล้วแสวงหากำไรจากงานของไอดอลเท่านั้น แต่ยังตั้งใจขยายผลประกอบการโดยมีชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของ SKE48 เป็นทุนเดิม
KeyHolder ตั้ง SKE ออกมาก่อนเพื่อรับธุรกิจต่อจาก AKS และค่อย ๆ ปรับ SKE จนเป็น Zest แต่การปรับเป็น Zest ไม่ได้เพียงแค่เปลี่ยนชื่อ เพราะเบื้องหลังมีการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่เกิดขึ้นเป็นทั่วไป
อย่างเช่นการที่ KeyStudio ซึ่งเดิมเป็นบริษัทลูกของ KeyHolder ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ Allfuz (บริษัทลูกที่ทำงานด้านการผลิตเช่นกัน) ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา ก็เป็นการบ่งบอกว่า KeyHolder วางแผนที่จะไม่ให้มีองค์กรทำงานทับซ้อนกัน
หรือการที่ KeyHolder กลับมาจัดทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศ ก็เป็นการบ่งบอกแล้วว่าเป้าหมายของ SKE48 ไม่ได้หยุดที่ Nagoya แต่ต้องการทำให้เป็นไอดอลแห่งชาติ นอกจากนี้เนื่องจากตอนนี้ทีม 8 ของ AKB48 ไม่ได้จัดทัวร์ทั่วประเทศมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2018 ทำให้ SKE48 กำลังแข่งทัวร์ทั่วประเทศกับทีม 8 ที่ไม่รู้จะได้กลับมาจัดงานนี้อีกเมื่อไร
Comments
Post a Comment