วิกฤต TPE48: ยังไม่ทันจะเริ่มต้นก็ใกล้จะสิ้นสุดแล้ว?

ในปี ค.ศ. 2016 AKB48 ประกาศจัดตั้งวงน้องสาวในต่างแดนรอบที่ 3 ซึ่งครั้งนั้นมีถึง 3 วงที่จะถูกก่อตั้งขึ้นมาในเวลาที่ใกล้เคียงกัน ได้แก่ TPE48, MNL48 และ BNK48

ดูเหมือนว่า เวลานี้กระแส BNK48 จะถูกจุดติดขึ้นมาในเวลาเพียง 1 ปี จนกลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงอย่างรวดเร็วเกินความคาดหมาย

ในขณะที่ MNL48 ก็สร้างความประหลาดใจให้กับแฟนคลับโดยการจัดตั้งทีมขึ้นมาพร้อมกัน 3 ทีมพร้อมด้วย Kenkyusei และจัดการเลือกตั้งเซมบัตสึขึ้นมาภายในวงอีกด้วย (ซึ่งจะแตกต่างจากระบบที่ใช้กันในวงน้องสาววงอื่น ๆ ที่ต้องผ่าน Kenkyusei ก่อนแล้วจึงขึ้นทีม) ทำแฟนคลับหลายคนงงเป็นไก่ตาแตกถึงการจัดตั้งวงที่ดูแปลกแนวไม่เหมือนใคร

ส่วน TPE48 กลับไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวังไว้ ดูเหมือนว่าตอนนี้ทีมสำหรับเธียเตอร์ก็ยังไม่เกิดขึ้นมาจริง ๆ เสียที และแถมความหวังก็ริบหรี่ลงทุกที จนแฟนคลับต่างเป็นห่วงถึงอนาคตของวงนี้เป็นอย่างมากว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป

วันนี้ "48ศึกษา" จะขอคั่นบทวิเคราะห์ the series กับตอนที่ 1.5 ในเรื่อง วิกฤต TPE48: ยังไม่ทันจะเริ่มต้นก็ใกล้จะสิ้นสุดแล้ว?

อนึ่ง บทวิเคราะห์นี้ได้รับการร้องขอจาก Thananon Meprachsom ผู้เขียนต้องขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย



รู้จักกันคร่าว ๆ กับ TPE48 

TPE48 หรือชื่อเต็มคือ Taipei48 เป็นวงน้องสาวต่างประเทศของ AKB48 ซึ่งก่อตั้งขึ้นในไต้หวัน (สาธารณรัฐจีน) โดยมีภาษาจีนเป็นภาษาราชการ โดยถือเป็นวงน้องสาวลำดับที่ 4 ที่ก่อตั้งขึ้นนอกประเทศญี่ปุ่น
TPE48
สำหรับ TPE48 แล้ว ถือว่ามีความแตกต่างจากวงน้องสาวอื่น ๆ อย่างชัดเจนในประเด็นของ การออดิชัน โดยหากกล่าวถึงรูปแบบการออดิชันก่อนที่จะมาเป็น TPE48 นั้น พบว่ามีถึง 2 รอบด้วยกัน โดยรอบแรกคือ รอบออดิชัน AKB48 ไต้หวัน และรอบที่สองคือ รอบออดิชันของ TPE48 รุ่นแรก

สองรอบนี้มีความแตกต่างกันถึงเป้าหมายและจุดประสงค์ของการออดิชัน

ออดิชัน AKB48 ไต้หวัน เป็นการออดิชันที่ AKB48Group เข้ามาทำการคัดเลือกโดยตรง ในปี ค.ศ. 2015 เพื่อคัดเลือกสาวไต้หวันไปเป็นทำงานร่วมกับ AKB48Group ที่ญี่ปุ่น โดยการคัดเลือกในวิธีนี้ ได้ผู้เข้ารอบสุดท้าย 17 คน (แม้ว่าจะถอนตัวออกไป 1 คนในเวลาต่อมา) และนำไปสู่ผู้ชนะการออดิชันอย่าง Ma Chia-Ling (馬嘉伶) โดยเธอได้กลายเป็นเมมเบอร์ AKB48 อย่างเต็มตัวในเวลาต่อมา



ออดิชัน TPE48 รุ่นแรก เป็นการออดิชันรูปแบบปกติ เพื่อคัดเลือกเมมเบอร์รุ่นที่ 1 ของ TPE48 ซึ่งจะประจำในไต้หวัน และเมมเบอร์รุ่นแรกก็ประกาศขึ้นในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 จำนวน 39 คน (ปัจจุบัน ถอนตัวออกไปแล้ว 6 คน) 

ทั้งสองรอบนี้มีความแตกต่างตรงที่เป้าหมายของการคัดเลือก ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่า ในระยะแรกนั้น AKS ไม่ได้เลือกที่จะตั้งเธียเตอร์และวงประจำในไต้หวัน เนื่องจาก SNH48 ยังคงอยู่ในกลุ่มในช่วงนั้นและต้องการหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในเชิงการเมืองได้ (ปัญหาจีน-ไต้หวัน ถือว่าเป็นรากฐานปัญหาที่มีมาอย่างยาวนาน และท่าทีที่เปลี่ยนไปเพียงนิดเดียวอาจส่งผลต่อทัศนคติของคนทั้งสองกลุ่มนี้ได้)  

ดังนั้น เพื่อเจาะถึงฐานในไต้หวัน AKS จึงเลือกใช้การออดิชันที่ AKB48Group เข้ามาคัดเลือกโดยตรงเพื่อเลือกเมมเบอร์ที่ชนะการออดิชันไปอาศัยและทำกิจกรรมที่ญี่ปุ่น ซึ่งกระทบต่อความรู้สึกและมุมมองแฟนคลับ SNH48 ที่ยังเป็นพี่น้องกันในเวลานั้น

แต่เมื่อ SNH48 ประกาศตัดขาดความเป็นพี่น้องกับ AKB48Group ในปี ค.ศ. 2016 ทำให้ AKS ต้องถอยการดำเนินงานในแผ่นดินใหญ่ทั้งหมด ในขณะที่ Ma Chia-Ling ก็เข้าทีมใน AKB48 เรียบร้อยแล้ว

เมื่อไม่มี SNH48 ก็ทำให้ AKS สามารถวางฐานวงไอดอลในไต้หวันได้ โดยมีการประกาศก่อตั้ง TPE48 พร้อมกับ MNL48 และ BNK48 ในปี ค.ศ. 2016 ซึ่งครั้งนี้เป็นการประจำการในไต้หวันเพื่อตั้งเธียเตอร์ โดยให้ TPE48 จัดการคัดเลือกเอง

แต่ด้วยความเสียดายที่ AKB48Group ลงทุนคัดเลือกเมมเบอร์รอบสุดท้ายมาแล้ว จึงทำให้ TPE48 เลือกที่จะดึง 6 เมมเบอร์ที่อยู่ในรอบสุดท้ายเข้ามาเป็นเมมเบอร์ TPE48 ล่วงหน้าในปี ค.ศ. 2017 และยังมีการประกาศเมมเบอร์ AKB48 ที่จะเข้าไปร่วม TPE48 ซึ่งนั่นคือ Abe Maria (阿部マリア) อีกด้วย

ในเวลานั้น BNK48 อยู่ในช่วงที่พึ่งจะออกซิงเกิ้ลแรก และ MNL48 กำลังหาเมมเบอร์เข้าวงอยู่ ส่วน TPE48 นั้น ก็กำลังหาเมมเบอร์รุ่นแรก แต่มีความพร้อมกว่า MNL48 ตรงที่มีเมมเบอร์อยู่ในมือแล้ว 7 คน


ปัญหาใน TPE48


สิ่งที่ทำให้ TPE48 กลับไม่สามารถตั้งทีมที่เป็นตัวเป็นตน, เธียเตอร์ที่ใช้แสดง, หรือแม้แต่มีเพลงเป็นของตนเอง ซึ่งนั่นกลับทำให้ TPE48 อยู่ในภาวะชะงักงัน และอยู่ในช่วงวิกฤต มาจาก 3 ปัจจัยด้วยกัน ดังนี้

ประการแรก ขาดทุนทรัพย์ - ในโลกของระบบเศรษฐกิจทุนนิยม "เงินคือพระเจ้า" ถ้าหากปราศจากซึ่งเงินแล้วไซร้ ธุรกิจก็ไปไหนไม่ได้ ดังนั้น หากอยากให้ธุรกิจยังคงอยู่ต่อไป เงินเท่านั้นที่ทำให้เดินหน้าต่อไปได้ 

หากผู้อ่านสงสัยว่า แล้วทำไม TPE48 ถึงไม่หมุนเงินให้ดีกว่านี้ หรือหาเงินมาผลักดันธุรกิจเร็ว ๆ ผู้เขียนต้องอธิบายก่อนว่า ในโลกของธุรกิจนั้น ธุรกิจก็เหมือนกับการปลูกต้นไม้ ธุรกิจต้องการการรดเงิน พรวนแรง และใส่แผนลงไป หากขากสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ธุรกิจก็ไปไม่ถึงฝั่ง แน่นอนว่าการหาเงินทุนเป็นเรื่องยาก และการคงสภาพธุรกิจให้อยู่รอดกลับยากยิ่งกว่า 

TPE48 ถูกมองว่าน่าจะเป็นวงที่ไปได้ไกลที่สุดในบรรดาสามวงที่ประกาศพร้อมกัน เพราะทั้งฐานแฟนคลับและวัฒนธรรมก็คล้ายคลึงกันพอสมควร แต่ในเวลานี้กลับหยุดนิ่งมาอย่างต่อเนื่อง

การขาดทุนของ Xihei Entertainment ซึ่งดูแล TPE48 กลายเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้วงยังไม่ได้ไปไหนเสียที จนถึงขั้นที่ไม่ได้จ่ายเงินพนักงานมาอย่างต่อเนื่อง 3 เดือน และการขาดทุนก็นำไปสู่การเกิดหนี้ที่ต้องชำระ (เมื่อไม่มีรายได้ ก็ไม่มีเงินชำระหนี้) 

ความน่ากลัวของการเกิดหนี้ คือเมื่อสะสมขึ้นไปเรื่อย ๆ จนถึงขั้นที่ไม่สามารถชำระได้ เจ้าหนี้สามารถสั่งฟ้องล้มละลายได้ (เป็นสากลโลกของกฎหมายหนี้) และการล้มละลาย นอกจากจะไปสู่การสูญเงินของ AKS ที่ไม่มีวันเอากลับมาได้จากไต้หวัน ยังทำให้เมมเบอร์ต้องจบการศึกษาทั้งหมดโดยปริยาย และทำให้วง TPE48 ต้องยุบลงเพราะการล้มละลาย

ผู้เขียนมองว่า สิ่งที่ส่งผลให้ TPE48 ขาดทุนและหยุดนิ่งจากการขาดเงิน ก็มีความเป็นไปได้อยู่สองสาเหตุหลักด้วยกัน 

สาเหตุแรกก็คือเงินลงทุนน้อยเกินไป - ถ้าหากว่า TPE48 เริ่มต้นด้วยเงินที่น้อยเพื่อหวังกำไรที่สูงอย่างรวดเร็ว ถือว่าเป็นความผิดพลาดในการเดินธุรกิจแบบไม่น่าให้อภัย เนื่องจากระบบไอดอล AKB48Group ต้องใช้เงินจำนวนมากในการจ่ายเมมเบอร์และสตาฟจำนวนมหาศาลกว่าร้อยชีวิต จะมานั่งทำแบบ SME (แล้วไปออกรายการ SME ตีแตก!) ไม่ได้  

* ข้อมูลการคำนวณต่อไปนี้ เป็นเพียงการสมมติและการคาดการณ์เท่านั้น *

สมมติการคำนวณแบบง่าย ๆ ก็คือ เมื่อมีเมมเบอร์+สตาฟประมาณ 100 คน ก็ควรมีเงินอย่างต่ำแล้ว 2-3 ล้านบาท (ถ้าต้องจ่ายเงินเดือนเฉลี่ยที่ 20,000-30,000 บาท) ไม่รวมค่าเช่าพื้นที่ที่เป็นเธียเตอร์หรือค่าอุปกรณ์ฉากหรือค่าเสื้อผ้าที่ต้องสั่งตัดพิเศษ และอีกมากมายมหาศาล

ถ้าเงินไม่หนาพอที่จะแบกรับค่าใช้จ่ายอันมหาศาลนี้ได้ ก็ไม่ควรเสี่ยงทำงานนี้ เพราะต้องลงทุนแบบจัดหนักไม่ต่ำกว่าหลักร้อยล้าน ซึ่งแน่นอนว่ายังมีค่าลิขสิทธิ์ "48" เพื่อจ่ายให้กับ AKS ที่เป็นผู้ถือสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว โดยเป็นการอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายทางการค้า 48, แผนการธุรกิจกึ่งสำเร็จรูป, ความเป็นพันธมิตรระหว่าง AKB48 และในตระกูลทั้งหมด, และอาจรวมถึงการให้เมมเบอร์ AKB48 ย้ายไปสังกัดอีกด้วย (ซึ่งก็ไม่ถึงการกับเป็นแฟรนไชส์ไปทั้งหมด)

สาหตุที่สองก็คือการตีตลาดไม่แตก - แม้ว่าจะมีเงินหนามากถึงขนาดที่จะคงธุรกิจได้รับศตวรรษ แต่หากปราศจากซึ่งการเข้าถึงตลาดเพื่อกำไรแล้ว เงินหนาแค่ไหนก็จบเกม ซึ่งตลาดคือทางเดียวของการหากำไรและรายได้ โดยเฉพาะวงการบันเทิงที่ต้องมีงานเข้ามาเป็นประจำ 

AKB48 มีโมเดลที่สามารถลุยธุรกิจในระยะยาวได้โดยไม่ต้องห่วงว่าจะพังลงเมื่อไร เพราะ AKS ได้คำนวณเรื่องนี้ไว้แล้ว โดยการลุยตลาดนั้น จำเป็นที่จะต้องมีรายได้เข้าตลอดเวลา ซึ่งรายได้หลัก ๆ ของ AKB48 ก็มีดังนี้
  • แผ่นซิงเกิ้ล - รายได้หลักก้อนใหญ่ที่ทำให้ธุรกิจคงอยู่ได้ ซึ่งราคาต่อแผนโดยปกติอาจไม่สูงมาก แต่เพราะการที่แผ่นซิงเกิ้ลมีรูปภาพสุ่มของเมมเบอร์หรือบัตรจับมือ (บางครั้งก็แถมรหัสสำหรับลงคะแนนเลือกตั้ง) จึงทำให้ยอดขายพุ่งกระฉูด โดยต้นทุนคือค่าทำแผ่นเพลง ค่าบันทึกเสียง/ภาพ และค่าจัดงานจับมือ (และการเลือกตั้ง)  
  • การแสดงบนเธียเตอร์ - ค่าเข้าชมในแต่ละวัน ถือว่าเป็นรายได้ที่ไม่มาก (การประมาณรายได้จากวิธีนี้ คือการแสดงรอบหนึ่งจะมีผู้ชมรอบละ 250 คน คนละ 400 บาท ดังนั้นก็จะมีรายได้ 100,000 บาทต่อการแสดงหนึ่งรอบ) ซึงค่าใช้จ่ายที่หนีไม่พ้น คือค่าเช่าพื้นที่และค่าจ้างสตาฟที่ทำงานในเธียเตอร์
  • ร้านค้าและคาเฟ่ของ AKB48Group - บางครั้งของที่เมมเบอร์วาดหรือมีรูปเมมเบอร์ก็สามารถหาเงินได้เช่นกัน โดยสินค้าเหล่านี้ก็สามารถสร้างรายได้ แม้ว่าจะขึ้นกับความนิยมของเมมเบอร์ในตลาดก็ตาม
  • งานอีเวนท์ภายนอก - บางครั้งก็อาจต้องลงทุนเพื่อพาเมมเบอร์ไปเป็นที่รู้จักแก่สาธารณชน แต่การมีผู้จัดมาเชิญให้ออกงานนั้น ค่าตัวของเมมเบอร์คือรายได้ที่สามารถรับประกันการอยู่รอดของวงได้ ยิ่งมีคิวงานที่ยาวเหยียด ก็เป็นที่เข้าใจได้เลยว่า นับเงินล่วงหน้ารอได้เลย
  • งานโฆษณา - ไอดอลที่มีชื่อวงเป็นเครื่องหมายที่สร้างเงินให้ตนเองและวง ก็สามารถโปรโมตสินค้า (ซึ่งเป็นเครื่องหมายทางการค้าเช่นกัน) เพื่อเกิดรายได้จากการช่วยเพิ่มยอดขายของสินค้าอื่น ๆ  ที่ไม่ได้เป็นของตนเอง โดยมีค่าตอบแทนเกิดขึ้นในฐานะผู้สนับสนุนสินค้านั่นเอง
สำหรับ TPE48 แล้ว กลับไม่สามารถสร้างรายได้ทางใดทางหนึ่งจากทั้ง 5 ข้อดังกล่าวข้างต้นได้เลย ซึ่งนั่นคือการที่ไม่มีรายได้เข้าวงเลย เมื่อมีแต่รายจ่าย ก็คือขาดทุนนั่นเอง 

สองสาเหตุนี้ คือสิ่งที่ทำให้ TPE48 ขาดรายได้ มีแต่รายจ่าย จนไม่มีทุนทรัพย์ทำงานต่อ ซึ่ง้องติดตามว่าจะเกิดอะไรขึ้น และแก้กันอย่างไรต่อไป

ประการต่อมา ไม่รู้จะใช้เพลงอะไรแสดง - เป็นศิลปินไอดอลที่ทั้งร้องเพลงและเต้น แต่กลับไม่มีเพลงเป็นของตนเอง ก็ไม่ใช่ศิลปินอย่างเต็มตัว จะว่าไปแล้ว TPE48 ที่ใช้ภาษาจีน ก็มีภาษาที่เหมือนกับ SNH48 (ต่อให้ระบบเขียนต่างกับแผ่นดินใหญ่ก็ตาม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องฟังเพลงโดยอ่านเนื้อร้องเสมอไป)

ในช่วงที่ SNH48 ยังอยู่ใน AKB48Group เพลงของ AKB48 ก็ถูกแปลเป็นภาษาจีน และเมมเบอร์ของ SNH48 ก็ได้รับเพลงแปลนี้แบบจัดเต็มจนกระทั่งถูกเลิกสัญญาออกไป

แต่พอ TPE48 ถูกก่อตั้งขึ้น พร้อม ๆ กับการที่ AKB48 Team SH ก็เริ่มดำเนินงานอยู่นั้น ปัญหาก็เริ่มเกิดขึ้นอีกครั้ง นั่นคือจะเอาเพลงจากที่ไหนมาใช้แสดง เพราะเพลงของ AKB48 ก็ถูกแปลให้กับ SNH48 ออกไปหมดแล้ว และแฟนคลับของ TPE48 ก็ไม่ได้คาดหวังที่จะเอาเพลงแปลมือสองจาก SNH48 มาเป็นของ TPE48 (แน่นอนว่า แฟนคลับก็คงน้อยใจที่รู้สึกว่าทำไมต้องเอาเพลงของ SNH48 มาร้องด้วย อยากได้อะไรที่เป็นของตัวเองบ้าง) และ AKB48 Team SH ก็น่าจะเจอกับปัญหาเดียวกันนี้อย่างแน่นอน และยิ่งมี TPE48 คอยจ้องจะเอาเพลงมาใส่กับวงของตนเอง ก็ยิ่งเกิดการแก่งแย่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

ดังนั้น การจะหาเพลงเพื่อเปิดตัววงของ TPE48 จึงยากกว่าวงอื่นใดในต่างแดนเสียอีก เพราะ Akimoto Yasushi (秋元 康) ก็ไม่คิดจะแต่งเพลงที่ไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่นอยู่แล้ว (ลำพังจะพูดภาษาอังกฤษยังยากส์) ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้วงน้องสาวต่างแดนเสียเปรียบในจุดนี้ และยิ่งซ้ำเติมเข้าไปในกรณีของ TPE48 ที่มีเพลงแปลของ SNH48 มาตัดตัวเลือกให้น้อยลงอีกด้วย

การหาเพลงที่เหมาะสมโดยใช้เพลงจาก AKB48Group และต้องไม่ใช่เพลงที่เคยให้ SNH48 ร้องไปแล้วนั้น จึงเป็นสิ่งที่ยากมาก เพราะเพลงที่เริ่มเปิดตัว จะเป็นตัวชี้วัดถึงความสำเร็จของวง ถ้าออกตัวดี ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว และเป็นปัญหาหนักสำหรับ TPE48 ที่จะหาจุดเริ่มต้นของตนเอง พร้อมกับปัญหาเงินด้วย ซึ่งก็ชัดเจนว่าการเปิดตัวนั้น ไม่ง่ายอย่างที่คิดอย่างแน่นอน

ประการที่สาม การบริหารของผู้บริหาร - โลกของธุรกิจที่อยู่ในระบบทุนนิยม ผู้บริหารนอกจากจะเป็นเจ้าของและบริหารธุรกิจโดยรวมแล้ว ยังเป็นเจ้าของเงินทุนหรือถือหุ้นหลักอยู่ในมืออีกด้วย การมีผู้บริหารที่ดี จะพาธุรกิจอยู่รอดได้แม้วิกฤตใหญ่จะเข้ามาตลอดเวลา แต่ถ้ามีผู้บริหารแย่ ธุรกิจอยู่เฉย ๆ ก็พังได้

ในปี ค.ศ. 2018 AKB48 กำลังฟื้นตัวด้วยการปฏิรูปอะไรหลายอย่างเพื่อเข้าสู่ยุคใหม่ที่เมมเบอร์รุ่นใหม่จะได้มีบทบาทในวง การเลือกตั้งเซมบัตสึโลกที่สร้างสีสันให้กับวงต่าง ๆ ใน AKB48Group แถมยังมีการประกาศจัดตั้ง MUM48, AKB48 Team SH, และ SGO48

ยิ่งไปกว่านั้น Produce48 ก็กำลังไปได้สวยกับการสร้างปรากฏการณ์ที่ดึงแฟนคลับหน้าใหม่จากฝั่งเกาหลีใต้ได้อีกมากมาย

แต่เกิดอะไรขึ้นกับ TPE48 ในเวลานี้ ทั้ง ๆ ที่กระแสของ AKB48Group กำลังฟื้นตัวในทางที่ดี ซึ่งแน่นอว่า ปัญหาก็อยู่ที่ตัวผู้บริหารที่ไม่สามารถจัดการปัญหาที่ค้างคาและปล่อยให้เกิดเริ่งแบบนี้ขึ้นมา (จริง ๆ ก็มีปัญหาที่เมาสุราต่อหน้าเมมเบอร์ซึ่งนั่นก็เป็นปัญหาทางจริยธรรมของตัวบุคคลด้วย)

สถานการณ์ปัจจุบันของ TPE48

ปัญหาในปัจจุบันนี้ ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องเงินที่ไม่มีอันจะจ่ายให้กับเมมเบอร์และสตาฟ โดยดูเหมือนว่าทุกคนต้องทำงานฟรี ๆ (เพื่อแลกกับเงินที่ไม่รู้ว่าจะได้จริง ๆ ตอนไหน) แต่นี่คือเรื่องจริงที่กำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ ความหวังที่ TPE48 จะได้เปิดตัวในเดือนพฤษภาคมก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า และดูเหมือนว่าการเปิดตัวของ TPE48 ก็แทบจะเลือนลางจนแทบจะใกล้ถึงจุดจบทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เริ่มต้น
Abe Maria กับ Akimoto Yasushi
และในเวลานี้ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ TPE48 ก็กลายเป็น TPE404 เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากปิดตัวลง (อันเนื่องจากไม่มีเงินค่าเช่าโดเมนนั่นเอง)
www.tpe48.tw ถูกปิดตัวลงแบบไม่มีสาดหตุ แต่เชื่อว่าไม่มีเงินถึงขั้นถูกตัดเซิฟเวอร์แล้ว
เมมเบอร์ทุกคนของ TPE48 ยังใจสู้ดี ตัวแทนเมมเบอร์ 5 คนจาก TPE48 ที่สู้ในการเลือกตั้งเซมบัตสึโลก ต่างก็ประกาศในงานการประกาศผลการเลือกตั้งแล้วว่า "จะขอสู้ไม่ว่าจะหนักแค่ไหนก็ตาม" แต่ดูเหมือนว่าความหวังจะมีเพียงน้อยนิดและยิ่งห่างออกไปทุกขณะ
เมมเบอร์ TPE48 กับคำว่า 加油 (Jiāyóu) ที่แปลว่า "สู้ ๆ นะ"
และแน่นอนว่า เหยื่อของวิกฤตครั้งนี้ก็หนีไม่พ้นเมมเบอร์จากญี่ปุ่นอย่าง Abe Maria ที่ตอนนี้แทบไม่มีงานเข้ามาเช่นเดียวกับที่ไม่มีงานเข้ามาใน TPE48 จึงทำให้เธอไม่สามารถอยู่ในไต้หวันได้และกลับญี่ปุ่นชั่วคราวจนกว่าวิกฤตจะจบลง

สำหรับ Abe Maria แล้ว เธอยังมีที่ไป นั่นคือญี่ปุ่นที่เป็นบ้านเกิดของเธอ แต่อีก 39 ชีวิตที่เหลือที่อยู่ในไต้หวันล่ะ ก็คงไม่มีที่จะให้ถอยอีกแล้ว ความฝันของพวกเธอกำลังรอให้ใครมาเติมเต็มอยู่ และเชื่อว่าต้องมีความหวังสักวันหนึ่ง

เว็บไซต์ของ TPE48 ปิดตัวอาจไม่สะเทือนใจพอ ถ้าใครติดตาม Twitter ของAbe Maria ก็จะพบว่า เธอตัด "TPE48" ออกจากการแนะนำตัวเองทิ้ง (อย่าเข้าใจผิดว่าที่ตัดออกเพราะแค่เปลี่ยนคำอธิบายเฉย ๆ  แต่เพราะการบอกว่าสังกัดใดนั้น ช่วยให้ผู้คนทราบและตามตัวตนที่แท้จริงได้อย่างถูกต้อง) 
Twitter ของAbe Maria ตอนที่ TPE48 ยังไม่เกิดวิกฤตรุนแรง

Twitter ของAbe Maria ในตอนนี้

ทางออกของ TPE48

สิ่งที่เสียดายที่สุดของ TPE48 ไม่ใช่เรื่องของการบริหารหรือเงิน แต่เป็นความฝันของสาว ๆ ทั้ง 40 ชีวิตต่างหากที่ต้องพังทลายลงแบบไม่เป็นท่า น้ำตาของพวกเธอไม่ใช่เพราะไม่ติดอันดับการเลือกตั้งที่แฟนคลับพยายามเอาใจช่วยแล้ว แต่เพราะปัญหาภายในวงเอง (ซึ่งช้ำใจยิ่งกว่า)

สิ่งที่น่าเจ็บใจไปกว่านั้น ก็เป็นการที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ TPE48 นั้นปิดตัวลงแบบไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ซึ่งก็นำไปสู่คำถามว่า หรือนี่จะเป็นบทอวสานของ TPE48 ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เริ่มต้นอะไรเลย

ผู้เขียนได้วิเคราะห์และประเมินทางออกที่เป็นไปได้สำหรับ TPE48 ซึ่งน่าจะมีตัวเลือกที่เป็นไปได้ 3 ตัวเลือกด้วยกันดังนี้

ประการแรก ปล่อยให้ญี่ปุ่นเข้ามากู้วิกฤต 100% - โดยปกติแล้ว AKS จะไม่สามารถทำการตลาดไอดอลนอกประเทศญี่ปุ่นเองได้ทั้งหมด เนื่องด้วยการขาดความชำนาญในพื้นที่นั้น ๆ ดังนั้น AKS จึงอาศัยการขายวิขสิทธิ์พร้อมรูปแบบธุรกิจไอดอลกึ่งสำเร็จรูปให้กับบริษัทบันเทิงในประเทศนั้น ๆ ได้ประกอบการ และ AKS จะเข้าคุมและประเมินผลประกอบการผ่านการถือหุ้นเพียงบางส่วน (เพื่อให้ยังมีน้ำหนักในการตัดสินใจบางอย่าง)

และเวลานี้ AKS ซึ่งผูกมัดอยู่กับ TPE48 ด้วยการถือหุ้นบางส่วนในเวลานี้ ก็กำลังจะสูญเงินไปกับ TPE48 แบบฟรี ๆ ชนิดที่ไม่ได้อะไรกลับมาเลย ดังนั้นหากจะกู้โอกาสในเวลานี้ AKS อาจต้องแสดงพลังออกมาผ่านการยึดบริษัทที่ดูแล TPE48 ที่แทบจะเป็นเมืองร้างไปแล้ว

แต่ใช่ว่า AKS จะยอมทำวิธีนี้โดยง่าย เพราะ AKS อาจมองว่า ถ้าเข้าครองทั้งหมดเพื่อคงสตาฟที่ยังทำงานและสะสางเงินจนหมดเพื่อเดินหน้าต่อไป อาจไม่คุ้มค่ากับการใช้เงิน เพราะกลายเป็นต้องใช้หนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อเลย (หรือพูดง่าย ๆ ก็คือรอ AKS มารับกรรมต่อนั่นเอง) แต่ถ้า AKS ไม่ทำอะไร ก็คือจบเกม โดยทิ้งเงินที่ลงทุนตอนแรกทั้งหมด พร้อมจากไปด้วยความขมขื่นทั้งเมมเบอร์และแฟนคลับที่ให้กำลังใจอย่างเต็มที่

หาก AKS เอาจริงกับการกู้เกมตอนนี้ ผู้เขียนคาดว่า AKS น่าจะเลือกปรับสัดส่วนผู้ถือหุ้นให้มากที่สุดเท่าที่ไต้หวันจะยอมให้ลงทุนในฐานะบริษัทข้ามชาติ พร้อมเตะผู้บริหารยกเข่งออกจากงานโทษฐานทำเงินของ AKS หายไปแบบไม่ได้อะไร

พอ AKS เลือกจะเล่นวิธีนี้ สิ่งต่อมาที่ต้องทำก็คือ หาเธียเตอร์กับเพลงเปิดตัว ซึ่งนั่นก็เป็นปัญหาสุดหินที่ต้องมานั่งคิดอีก เพราะเพลงดี ๆ ก็แปลให้ SNH48 ไปหมดแล้ว ซึ่งก็ดูเหมือนว่า เหลือเพียงแค่แต่งใหม่พร้อมแปลอีกทีเท่านั้นที่พอจะทำได้  

ประการที่สอง หาบริษัทในไต้หวันเข้ามาครอบกิจการ - ดูเหมือนจะง่าย แต่จริง ๆ นั้นยากมาก เพราะในทางธุรกิจแล้ว ไม่มีใครอยากซื้อธุรกิจที่ขาดทุนเละกระจุยแบบที่ไม่มีเงินจะจ่ายคนของตนเอง เพราะซื้อไปก็ต้องใช้หนี้อยู่ดี จะรับภาระเรื่องนี้ให้เสียเงินโดยใช่เหตุทำไม

อารมณ์แบบว่า "เซ้งกิจการด่วน" อะไรแบบนี้ เพราะไม่มีเงินจะจ่ายแล้ว ถ้าโชคดีที่มีคนอยากทำต่อและเงินหนาพอ ก็พอเป็นไปได้ แต่ถ้าเกิดไม่มีใครอยากทำธุรกิจนี้ล่ะ โอกาสจะไปต่อก็แทบจะเป็นศูนย์

แน่นอนว่า ไม่มีอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันสำหรับ TPE48 ในตอนนี้ ไม่ว่าใคที่มาดูกิจการนี้ ก็คงมองว่าจะซื้อหนี้มาผลาญเงินเล่นทำไม ความหวังที่จะหาบริษัทใหม่ในไต้หวันก็คงยากกว่าที่จะให้ AKS ยึดเองมากกว่า

ประการที่สาม ล้มละลายและก่อตั้งวงในบริษัทใหม่ - AKS อาจเลือกที่จะทิ้งเงินส่วนนั้นให้จมไปกับการล้มละลายในบริษัทเดิม และหาช่องทางจัดตั้งบริษัทใหม่เพื่อดูแลเองโดยตรงแบบเข้มงวดเช่นเดียวกับ AKB48 TeamSH ซึ่งอาจจะดูดีกว่าถ้าเลือกที่ยังลงทุนแบบบางส่วนผ่านบริษัทไต้หวันเจ้าใหม่ที่พร้อมกว่า แทนที่จะเลือกคุมส่วนใหญ่ของบริษัทเก่าเพื่อดูแลเองโดยตรง ซึ่งใช้เงินลงทุนน้อยกว่า

แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเมมเบอร์ ก็คือเมมเบอรืต้องทำงานกับสตาฟคนใหม่ แต่ถ้าเมมเบอร์เหล่านี้จบการศึกษาออกไปเมื่อไร TPE48 ก็คืออวสานทันที และถ้ามีการเรียกกลับมาหรือออดิชันใหม่ ก็คงไม่มีใครที่อยากลำบากอีกครั้งแน่นอน อย่างน้อยที่สุด ต้องสามารถหาบริษัทใหม่ที่มาแทนแล้วย้ายเมมเบอร์ทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงการจบการศึกษาออกไปให้ได้มากที่สุด


แต่ไม่ว่าตัวเลือกใดจะถูกนำมาใช้ ก็ต้องทำด้วยความรอบคอบ เนื่องจาก TPE48 กำลังเผชิญจากวิกฤตภายในที่ยากจะเข้าใจและยากที่จะฟื้นฟู อาจจะต้องขอเวลาอีก 1-2 ปีให้อะไรกลับเข้าที่เข้าทางแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น  

บทส่งท้าย

TPE48 ในเวลานี้ อยู่ในช่วงวิกฤตที่ต้องแก้ไขโดยด่วน ความฝันของเมมเบอร์ทั้ง 40 คนขึ้นกับการบริหารว่าจะมีทางออกอย่างไร และใครจะมากู้วิกฤตครั้งนี้ ทุกคนอาจคาดหวังว่า AKS จะต้องเข้ามาแทรกแซงเพื่อให้พวกเธอยังได้ไปต่อ สตาฟที่กำลังอดอยากก็มีแรงที่จะเดินหน้าเพื่อช่วงสร้างฝันให้เมมเบอร์ได้

นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมองว่าอนาคตจากนี้ของ TPE48 จะไปทางใด แต่ผู้เขียนหวังว่า TPE48 จะผ่านพ้นวิกฤตและมีซิงเกิ้ลเปิดตัวที่สร้างความหวังให้กับทุกคนได้ในเร็ววันนี้.. 

ที่มา:

  • https://tw.news.yahoo.com/%E7%8D%A8-tpe48%E5%AE%98%E7%B6%B2%E7%84%A1%E9%A0%90%E8%AD%A6%E9%97%9C%E9%96%89-%E9%98%BF%E9%83%A8%E7%91%AA%E5%88%A9%E4%BA%9E%E7%88%86%E7%B9%B3%E4%B8%8D%E5%87%BA%E6%88%BF%E7%A7%9F-100636015.html
  • https://tw.news.yahoo.com/tpe48%E5%87%BA%E9%81%93%E9%9B%A3%E7%94%A2-%E5%8F%B0%E7%81%A3%E7%87%9F%E9%81%8B%E6%96%B9%E9%81%AD%E7%88%86%E6%AC%A0%E8%96%AA300%E8%90%AC-232321602.html


  

Comments

Popular posts from this blog

บทวิเคราะห์: เหตุผลที่ไม่มีทางที่จะได้เห็น Produce46..

Shiawase no Hogoshoku (しあわせの保護色) - กับตัวตนต่าง ๆ ของ Shiraishi Mai

Majimuri Gakuen (マジムリ学園) กับเค้าโครงประวัติศาสตร์จริง