48ศึกษากับบทวิเคราะห์ the series: หลังจากนี้ NGT48 จะปิดทุ่งนาสู้ เพราะโหวตรอบสอง เรามาแน่ - คำประกาศที่เกินจริง?

เนื้อหาบทวิเคราะห์เรื่อง 48ศึกษากับบทวิเคราะห์ the series: หลังจากนี้ NGT48 จะปิดทุ่งนาสู้ เพราะโหวตรอบสอง เรามาแน่ - คำประกาศที่เกินจริง? ได้รับไอเดียจาก Beamn Suttinan ผู้เขียนต้องขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย

นี่คือ 1 ใน 7 บทความที่น่าสนใจสำหรับ "48ศึกษากับบทวิเคราะห์ the series" โดยเป็นบทความลำดับที่ 6

ในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ มีคำว่าปาฏิหาริย์ที่นำมาใช้แล้วถึง 4 ครั้ง คือ ปาฏิหาริย์เศรษฐกิจบนแม่น้ำ Rhine (เยอรมนี),  ปาฏิหาริย์เศรษฐกิจญี่ปุ่น, ปาฏิหาริย์เศรษฐกิจไต้หวัน, และปาฏิหาริย์เศรษฐกิจบนแม่น้ำ Han (เกสหลีใต้)

แต่ในประวัติศาสตร์ AKB48Group คำว่าปาฏิหาริย์ ยังไม่เคยถูกนำมาใช้ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คำว่าปาฏิหาริย์ก็ถูกนำมาใช้ครั้งแรกกับ NGT48 กับเทอมของคำใหม่ที่เรียกว่า "ปาฏิหาริย์ NGT48"

คำว่า "ปาฏิหาริย์ NGT48" นับเป็นปรากฏการณ์หนึ่งใน AKB48Group ที่ความนิยมของ NGT48 สูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากอันดับการเลือกตั้งที่ขึ้นมาแบบที่ไม่มีใครเคยคาดคิดมาก่อน แม้แต่เมมเบอร์เองก็ไม่คิดว่าแฟนคลัยจะกล้าทุ่มเงินอันมหาศาลแบบนี้

48ศึกษา จะมาติดตามถึง NGT48 และสิ่งที่ทำให้เมมเบอร์ก้าวสู่จุดสูงสุดได้ราวกับปาฏิหาริย์ และอะไรที่ทำให้เมมเบอร์ยังไม่ถึงจุดสูงสุดของไอดอลด้วยการชนะการเลือกตั้งเสียที

NGT48 - เมืองท่าแต่เก่า อู่ข้าวอู่น้ำ

เดิมทีเมือง Niigata เป็นเมืองท่ามาตั้งแต่ยุคโบราณ เนื่องจากอยู่ใกล้ทะเลและมีแม่น้ำไหลผ่านตัวเมืองทำให้เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งในญี่ปุ่น โดยก่อนหน้าจะมาเป็นระบบจังหวัดแบบปัจจุบัน พื้นที่ดังกล่าวคือ แคว้น Echigo (越後国) ซึ่งมีบุคคลที่สำคัญที่สุดเคยปกครองแคว้นนี้ก็คือ Uesugi Kenshin (上杉 謙信) ผู้มีสมญานามว่า "พระเจ้าแห่งสงคราม" (God of War)

ในปี ค.ศ. 1858 ญี่ปุ่นและสหรัฐฯลงนามในสนธิสัญญามิตรภาพและการค้าระหว่างญี่ปุ่น-สหรัฐฯ (日米修好通商条約) เพื่อเปิดเมืองทั้งหมด 5 เมืองสำหรับทำการค้าและสิทธฺสภาพนอกอาณาเขต และ Niigata คือหนึ่งใน 5 เมืองนั้น ทำให้เมืองต้องเปิดการค้ากับต่างชาติ แต่เมือง Niigata ยังไม่พร้อมกับการเป็นเมืองท่าเพราะระดับน้ำที่ตื้นเกินกว่าเรือสินค้าจะเข้าถึงได้

ในที่สุดวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1869 ท่าเรือเมือง Niigata ได้ฤกษ์เปิดใช้งาน ซึ่งหลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ก็กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการขนส่งสินค้าจากด้านมหาสมุทรแปซิฟิกฝั่ง Tokyo มายังฝั่ง Niigata ที่เป็นทะเลญี่ปุ่น หรือไม่ก็เป็นเมืองท่าสำหรับค้าขายกับรัสเซีย, เกาหลีใต้, และจีน
(http://fpcj.jp/en/useful-en/wjn-en/p=58828/)

ในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2019 เมือง Niigata ฉลองท่าเรือครบรอบ 150 ปี และ NGT48 ก็ไม่พลาดที่จะเข้าร่วมในฐานะวงไอดอลดาวเด่นจากเมือง Niigata
NGT48 ร่วมกับจังหวัด Niigata จัดงานฉลองท่าเรือเมือง Niigata ครบรอบ 150 ปี
(http://nii-port.com/219/)
ความพิเศษของเมืองนี้ คือการที่เป็นเมืองท่าเพียงไม่กี่แห่งที่ตั้งอยู่ฝั่งทะเลญี่ปุ่น และความสามารถในการปลูกข้าวที่มากที่สุดในประเทศจนจะเรียกว่าเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำก็คงไม่ผิด
(https://jw-webmagazine.com/wonderful-rice-field-terraces-in-japan-280405074a78)

อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง Niigata คือ นักช้อยกอยหงอน (Crested ibis) หรือ Toki (トキ) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติในญี่ปุ่น โดยนกในธรรมชาติตัวสุดท้ายที่อยู่ในเกาะ Sado (佐渡ヶ島) ถูกจับในปี ค.ศ. 1981 และนกท้องถิ่นตัวสุดท้ายได้ตายลงในปี ค.ศ. 2003 แต่ได้กลับคืนสู่ธรรมชาติอีกครั้งในปี ค.ศ. 2008 ด้วยนก Toki ที่ได้รับความช่วยเหลือจากจีน
(https://www.japan-guide.com/e/e7684.html)
หน้าตาของนก Toki
(https://www.japan-guide.com/e/e7684.html)
ตัวสีขาว ขอบตาสีแดง นี่คือแรงบันดาลใจที่นำไปสู่สีของสัญลักษณ์วง NGT48 ที่มีพื้นหลังสีขาว และตัวอักษร "NGT48" สีแดง
Kitahara Rie (北原里英) และ Kashiwagi Yuki (柏木由紀) สองเมมเบอร์อาวุโสผู้มีส่วนผลักดัน NGT48
(https://mdpr.jp/music/detail/1514854)
NGT48 จึงถูกสร้างขึ้นมาไม่ได้เพื่อเป็นแค่วงไอดอลธรรมดาเท่านั้น แต่เป็นวงไอดอลเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและมอบสัญลักษณ์สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเมือง Niigata ทำให้ชาวเมือง Niigata รู้สึกได้ถึงการเข้าถึงที่ง่าย เพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวในท้องถิ่น เมื่อถึงจุดนั้นแล้ว แฟนคลับที่ส่วนใหญ่มาจากเมือง Niigata ก็พร้อมทุ่มเทให้กับเมมเบอร์วงนี้ เพื่อให้ชื่อเมืองนี้ได้ติดหูคนทั่วโลก ไม่ว่าจะให้เมมเบอร์ติดอันดับในการเลือกตั้งสูง ๆ หรือสนับสนุนเมมเบอร์ในการทำลายสติถิโลก

จุดแข็งของ NGT48 ในการเลือกตั้ง

แม้ว่าทำเลที่ตั้งของเมือง Niigata จะเป็นทั้งท่าเรือและแหล่งผลิตทางเกษตรกรรมในเวลาเดียวกัน แต่พื้นฐานของคนในจังหวัดนี้ กลับอยู่ในกลุ่มที่มีรายได้เฉลี่ยในระดับปานกลาง นั่นคือ ปัจจัยการสนับสนุนจากแฟนคลับเพียงอย่างเดียว ไม่ใช่คำตอบของความสำเร็จใน NGT48 แต่อีกสิ่งที่นำไปสู่ความสำเร็จเช่นกัน ก็คือ สภาพของ NGT48 เอง

ความสำเร็จของเมมเบอร์ในวงไอดอลนี้ โดยใช้การเลือกตั้งเป็นเครื่องมือในการพิสูจน์ความนิยม ก็จะมีสองทางเลือกหลัก ๆ ก็คือ การผลักดันจากสตาฟเพื่อสร้างดาวเด่น หรือไม่ก็เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าแฟนคลับจนได้แรงสนับสนุนมากพอโดยไม่ต้องพึ่งสตาฟ

แต่สำหรับกรณีของ NGT48 ที่ก่อตั้งในปี ค.ศ. 2015 กลับแตกต่างออกไป เนื่องจากยังเป็นช่วงที่วงกำลังตั้งตัวได้ และขยายความนิยม ดังนั้นเมมเบอร์ของวงจึงยังไม่มาก และฐานเสียงยังไม่กว้างมากพอที่จะสร้างแรงกระเพื่อมอย่างกว้างขวาง

สิ่งที่ถือได้ว่า เป็นจุดเด่นของวง NGT48 ที่สามารถก้าวสู่อันดับสูงได้อย่างรวดเร็ว ก็มีปัจจัยหลัก ๆ อยู่ 2 ประการ ดังนี้

ประการแรก แฟนคลับ NGT48 - เช่นเดียวกับ SKE48 ตรงที่วงไอดอลได้แสดงความเป็นเอกลักษณ์แห่งจังหวัดนั้น ๆ ออกมา ซึ่งเป็นการโฟกัสไปที่จังหวัดที่เป็นที่ตั้งของเธียเตอร์โดยตรง ทำให้เป็นที่รู้จักจากคนในท้องถื่นเป็นอย่างมาก และการช่วยโปรโมตจังหวัดก็ยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกที่ภาคภูมิใจไปพร้อมกับไอดอลอีกด้วย

แฟนคลับของ NGT48 น่าจะออกมาในรูปแบบที่คล้ายกับ SKE48 นั่นคือ Hako-oshi (箱推し) ซึ่งเน้นสนับสนุนวงโดยรวมมากกว่าที่เมมเบอร์คนใดคนหนึ่ง เนื่องจากพื้นฐานของ NGT48 เองก็ออกมาเพื่อสร้างชีวิตชีวาให้กับจังหวัด Niigata โดยเฉพาะ ดังนั้น เมื่อเน้นท้องถิ่นเป็นพิเศษ คนในท้องถื่นจึงรู้สึกผูกพันกับวงมาก และอยากสนับสนุนให้พื้นที่ของตนเองเป็นที่รู้จักมากขึ้น

ประการที่สอง วงขนาดเล็ก - เพราะ NGT48 พึ่งก่อตั้งมาได้ไม่นาน อีกทั้งยังอาศัยเมมเบอร์รุ่นพี่ที่ควบวงในการโปรโมต ดังนั้นจึงทำให้วงยังมีขนาดเล็ก

วงขนาดเล็กทำให้เมมเบอร์สนิทกันได้แทบทั้งวง และยังทำให้แฟนคลับเจอจุดร่วมจากการสนับสนุนเมมเบอร์คนเดียวกันได้ง่ายขึ้นอีกด้วย จากการเลือกตั้งเซมบัตสึครั้งที่ 10 ซึ่งเมมเบอร์ NGT48 ลงสมัคร 17 คน ปรากฏว่ามีเมมเบอร์ 14 คนที่ติดอันดับในการเลือกตั้ง หรือมีเมมเบอร์ที่ติดอันดับมากถึง 82% ซึ่งสูงลิ่วแซงทุกวงอย่างไม่ต้องสงสัย

หากวงมีจำนวนเมมเบอร์ที่มากเกินไปในเวลาอันสั้น แม้ว่าจำนวนเมมเบอร์ที่มากจะหมายถึงการมีโอกาสที่จะติดในการเลือกตั้งมากก็ตาม แต่กลับทำให้เกิดการแย่งคะแนนเสียงภายในกลุ่มแฟนคลับของวงมากขึ้น จนส่งผลเสียต่อฐานเสียงของเมมเบอร์ในอนาคต เมื่อมีคะแนนเสียงที่ลดลงจากการตัดคะแนนกันเอง ก็นำไปสู่การหลุดอันดับได้ 

ด้วยความโชคดีที่ NGT48 ยังมีขนาดวงที่เล็กในการเลือกตั้งเซมบัตสึครั้งที่ 10 ทำให้การโฟกัสของเหล่าแฟนคลับชัดเจนมากขึ้นถึงเมมเบอร์เป้าหมายที่จะเลือก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการติดอันดับของเมมเบอร์หลายคน

สิ่งที่ NGT48 ยังต้องพัฒนาต่อไป

แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นวงที่ตั้งขึ้นมาเพื่อ Niigata โดยเฉพาะ และพลังของแฟนคลับก็ทรงพลังอย่างชัดเจน แต่ผลการเลือกตั้งแสดงให้เห็นว่า NGT48 ก็ยังห่างไกลจากอันดับที่ 1 อยู่พอสมควร นั่นคือ ต้องมีปัจจัยบางอย่างที่ทำให้ NGT48 ยังเอาชนะวงที่ตั้งก่อนหน้านี้ไม่ได้ โดยผู้เขียนเชื่อว่า มีสามปัจจัยหลักที่น่าจะเป็นเงื่อนไขหลักสู่ชัยชนะ ดังนี้

ประการแรก การขยายฐานเสียง - การจะได้มาซึ่งชัยชนะในการเลือกตั้งนั้น จะเป็นที่จะต้องมีคะแนนเสียงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การโหวตของ AKB48 Group ไม่ได้ขึ้นอยู่เพียงแค่จำนวนแผ่นเพลงที่ใช้ลงคะแนนเท่านั้น แต่ยังอาศัยการเป็นสมาชิกของแอปพลิชันเสียเงินต่าง ๆ ที่มีสิทธิ์โหวต ซึ่งนับเป็น 1 คะแนนเช่นกัน

ดังนั้น หนึ่งคนกับแผ่นซิงเกิ้ล 500 แผ่น ก็จะมีค่าเท่ากับ 500 คนที่โหวตโดยใช้การเป็นสมาชิกแอปพลิเคชัน หรือ 500 คนที่ มีแผ่นซิงเกิ้ลคนละ 1 แผ่น นั่นคือ การทำคะแนนให้กับเมมเบอร์ ไม่ได้อยู่เฉพาะการทุ่มเงินซื้อแผ่นซิงเกิ้ลเท่านั้น

สิ่งที่ NGT48 มีอยู่ในขณะนี้ คือเหล่าแฟนคลับที่จงรักภักดี และยอมทุ่มเงินเพื่อให้เมมเบอร์ได้อันดับสูง ๆ เพียงแต่ยังขาดในเรื่องของจำนวนแฟนคลับประเภทนั้น

Ogino Yuka (荻野由佳) จบอันดับที่ 5 ในการเลือกตั้งเซมบัตสึครั้งที่ 9 ด้วยคะแนน 73,368 คะแนน ในขณะที่การเลือกตั้งเซมบัตสึครั้งที่ 10 เธอจบอันดับที่ 4 ด้วยคะแนน 81,629 คะแนน เพิ่มขึ้นประมาณ 8,000 คะแนน
Ogino Yuka
ส่วน Homma Hinata (本間日陽) ได้อันดับที่ 13 จาก 41,230 คะแนนในการเลือกตั้งเซมบัตสึครั้งที่ 9 แต่อันดับของเธอลดลงไปอยู่ที่ 16 ด้วยคะแนน 39,241 คะแนน ในการเลือกตั้เซมบัตสึครั้งที่ 10 ซึ่งลดลงประมาณ 2,000 คะแนน
Homma Hinata
จะเห็นได้ว่าเมมเบอร์ระดับแถวหน้าของ NGT48 มีการเปลี่ยนแปลงของคะแนนในระดับที่เพียงพอต่อการรักษาอันดับเดิมไว้เท่านั้น การเอาชนะจึงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากเมมเบอร์ตัวเต็งหลายคนมีคะแนนที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ผลที่ออกมาจึงเป็นสิ่งที่อธิบายได้ว่า ความมุ่งมั่นของแฟนคลับในการทุ่มคะแนนที่มากขึ้นเพื่ออันดับที่ 1 ไม่เพียงพอต่อการชนะในการเลือกตั้งอีกต่อไป การที่จะพาเมมเบอร์ NGT48 เข้าสู่บัลลังก์ราชินี AKB48 Group ได้นั้น ต้องอาศัยการขยายจำนวนแฟนคลับไปด้วย

แม้ว่าการขยายฐานเสียง จะมีทั้งการขยายฐานเสียงในเชิงลึกที่แฟนคลับสนับสนุนด้วยเงินที่มากขึ้น และในวงกว้างที่จำนวนแฟนคลบมีมากขึ้น แต่การเพิ่มจำนวนแฟนคลับกลายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของ NGT48 ต่อการเอาชนะในการเลือกตั้ง เนื่องจากฐานเสียงของแฟนคลับวงอื่น ๆ ต่างอยู่ในระดับที่สูงกว่าไม่ว่าจะเป็น AKB48, SKE48, หรือ HKT48 ซึ่งเป็นวงที่ก่อตั้งก่อน NGT48

การเพิ่มจำนวนแฟนคลับที่จงรักภักดีนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เนื่องจากตลาด AKB48 Group จะเน้นการสนับสนุนจากแฟนคลับเป็นหลัก ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องใช้ทั้งเวลาและความเชื่อมั่นจากเมมเบอร์ ดังนั้น การเติบโตของวงจะควบคู่กับการขยายฐานเสียง ซึ่งส่งผลต่อการคะแนนเสียงที่จะได้รับเช่นกัน

ประการที่สอง ฐานเสียงในต่างแดน - สิ่งหนึ่งที่จะทำให้ NGT48 ได้เปรียบในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ ก็คือฐานเสียงในต่างแดน เนื่องจากการขยายตลาดของ AKB48 Group ได้เข้าสู่ช่วงที่จะต้องเปิดประตูรองรับฐานเสียงนอกญี่ปุ่นมากขึ้น และ NGT48 ก็จำเป็นที่จะต้องลุยในตลาดนอกญี่ปุ่นเพื่อการขยายฐานเสียงในการเลือกตั้งเช่นกัน

สิ่งนี้เป็นที่ชัดเจนจากการลงพื้นที่ถ่ายทำ MV เพลง Sekai no Hito e (世界の人へ) ในเมือง Vladivostok ของรัสเซีย ซึ่งนอกจากแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ต้องการบ่งบอกถึงผู้คนบนโลกดั่งเช่นในเนื้อเพลง แต่ก็บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นที่จะก้าวออกไปหาความท้าทายใหม่ ๆ ในการขยายฐานเสียงนอกญี่ปุ่น
(https://48studies.blogspot.com/2018/09/ngt48-4th-single-meaning.html)
ปกแผ่นซิงเกิ้ล Sekai no Hito e (世界の人へ) Type A 

กรณีของ Yamaguchi Maho - Turning point ของ NGT48?

ต้นปี ค.ศ. 2018 NGT48 สามารถทำลายสถิติโลกได้สำเร็จ และกลายเป็นยุคทองของ NGT48 ที่แฟนคลับต่างก็ยินดีปรีดา แต่ทุกสิ่งทุกอย่างได้พลิกกลับจากหน้ามือเป็นหลังเท้าในปี ค.ศ. 2019 จากกรณีของ Yamaguchi Maho (山口真帆)
Yamaguchi Maho
Yamaguchi Maho เป็นรองกัปตันทีม G ซึ่งแยกตัวจากทีม NIII ในช่วงกลางปี ค.ศ. 2018 โดยเธอได้ระบายทั้งน้ำตาในเรื่องที่เธอถูกทำร้ายร่างกายเมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 2018 กลาง SHOWROOM ในคืนวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 2019

ในวันที่ 9 มกราคม ค.ศ. 2019 สถานีโทรทัศน์ NHK นำเสนอข่าวที่ Yamaguchi Maho ถูกทำร้ายร่างกายร่างกาย เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 2018 หลังการแสดงบนสเตจของ NGT48 เมื่อคนร้ายสองคนบุกเข้าไปถึงที่พักของเธอพร้อมกับทำร้ายร่างกาย

ตำรวจสามารถรวบตัวคนร้ายไว้ได้ แต่ก็ปล่อยตัวทั้งสองคนในเวลาต่อมาโดยไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด และทางต้นสังกัดเองก็ไม่ได้ติดตามหรือแสดงความตั้งใจในการจัดการกับเหตุทำร้ายนี้แต่อย่างใด
(http://j-channel.jp/th/c-news/c-entertainment/91889/
https://www.tokyoreporter.com/entertainment/idol/ngt48s-maho-yamaguchi-assaulted-by-2-men-at-niigata-residence/)
ภาพข่าวในกรณี Yamaguchi Maho
(http://j-channel.jp/th/c-news/c-entertainment/91889/)
สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ คือการแสดงบนสเตจครบรอบ 3 ปีของเธียเตอร์ NGT48 โดย Yamaguchi Maho ร่วมการแสดง และโค้งตัวขอโทษที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นมา สร้างความประหลาดใจให้กับแฟนคลับและบุคคลภายนอกที่เหยื่อกลายเป็นคนที่ต้องขอโทษ
(https://kotaku.com/japanese-pop-idol-apologizes-after-being-allegedly-atta-1831635692)

ปฏิกิริยาจากแฟนคลับต่างเพ่งไปที่ฝ่ายบริหารทั้ง NGT48 และ AKS ที่ไม่ได้ดูแลสวัสดิภาพของ Yamaguchi Maho ทั้ง ๆ ที่ถูกทำร้าย โดยกลายเป็นเหตุที่ทำให้แฟนคลับหลายคนเลิกสนับสนุน AKS แม้ว่าจะออกมาปกป้องและรักเมมเบอร์เช่นเดิม

NGT48 ในตอนนี้กำลังเสียศรัทธาจากแฟนคลับไม่ใช่เพราะเรื่องอื้อฉาว แต่เพราะความเพิกเฉยของฝ่ายบริหารต่อสวัสดิภาพของเมมเบอร์ที่เป็นแหล่งสร้างรายได้ให้ทั้งต้นสังกัด, ฝ่ายบริหาร, และสตาฟ

ในวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 2019 Imamura Etsuro (今村悦朗) ผู้จัดการเธียเตอร์คนเก่าถูกเด้งออกจากตำแหน่ง และแทนที่ด้วย Hayakawa Maiko (早川麻依子) ในฐานะผู้จัดการเธียเตอร์ และ Okada Tsuyoshi (岡田剛) ในฐานะรองผู้จัดการเธียเตอร์
 Hayakawa Maiko และ Okada Tsuyoshi ในวันที่เข้ารับตำแหน่งผู้จัดการเธียเตอร์และรองผู้จัดการเธียเตอร์ตามลำดับ
(https://tw.appledaily.com/new/realtime/20190115/1500806/)
แต่การมาใหม่ของผู้จัดการเธียเตอร์ เหมือนจะเป็นแค่พาราเซตามอลที่ใช้กับอาการปวดทั่วตัว ทั้งสองทำได้เพียงโค้งคำนับขอโทษ และตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อหความจริงจำนวน 3 คน ซึ่งก็ยังไม่ได้ทำให้กรณีของ Yamaguchi Maho จบลงด้วยการลงโทษของผู้ร้ายตัวจริง
(https://aramajapan.com/news/ngt48-director-etsuro-imamura-to-be-replaced-with-a-female-still-no-punishments-for-maho-yamaguchi-assault/94681/)

ไม่ใช่แค่แฟนคลับที่เสียศรัทธา แต่ภาคธุรกิจก็เช่นกัน หากผู้คนมองว่าวงมีชื่อเสีย ภาคธุรกิจที่คอยสนับสนุนพวกเธอด้วยการเป็นพรีเซนเตอร์ก็พร้อมแห่ถอนตัวออก ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ Lawson ที่ลบคลิปโปรโมตแคมเปญร่วม, อาหารทะเลแปรรูป Ichimasa Kamaboko (一正蒲鉾) ซึ่งตั้งอยู่ที่เมือง Niigata ก็ยกเลิกโฆษณาที่มี NGT48 ทั้งหมด, หรือแม้แต่หอการค้า Niigata ก็ลบหน้าเว็บที่ฉลองการเปิดท่าเรือของเมืองครบรอบ 150 ปีซึ่งมี NGT48 เป็นส่วนหนึ่งอีกด้วย
(https://akb48-matome.net/archives/25833
https://contents.xj-storage.jp/xcontents/AS00463/461d0fe2/1c1c/4112/b49b/035032147938/20190115092512452s.pdf
https://jshowbiz.com/english/component/k2/item/4585-more-organizations-sever-ties-with-ngt48.html
https://onehallyu.com/topic/760338-niigata-government-several-sponsors-withdraw-their-supports-from-ngt48/)

วิกฤตศรัทธารอบนี้จึงรุนแรงที่หนักกว่าสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับ SKE48 หรือ NMB48 ที่เมมเบอร์เสาหลักจบการศึกษาออกไปเท่านั้น ความล้มเหลวจากภายในกำลังทำให้แฟนคลับวงเสียความวางใจในตัวผู้บริหารและเจ้าของวง

กรณี Yamaguchi Maho กับอนาคตของ NGT48

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาแฟนคลับ NGT48 เป็นหน้าใหม่ที่สามารถสร้างความนิยมให้กับเมมเบอร์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็นการยึดครองที่ 1 ใน AKB48 Group Request Hour Setlist Best 100 ทั้งปี ค.ศ. 2017 และ 2018 ซึ่งทำให้แฟนคลับทีม 8 ที่โหวตให้กับเพลง 47 no Suteki na Machi e (47の素敵な街へ) ต้องผิดหวังมาตลอด หรือการที่ทำให้ Ogino Yuka ติดอันดับที่ 1 ในผลด่วนการเลือกตั้งเซมบัตสึสองปีซ้อน

แต่ในปี ค.ศ. 2019 NGT48 กำลังจะได้รับบทเรียนสำคัญที่จะทำให้ความฝันของเมมเบอร์ NGT48 ต้องสะดุดลง เนื่องจาก AKB48 Group Request Hour Setlist Best 100 2019 ปรากฏว่าเพลง Sekai no Hito e ของ NGT48 ทำได้ดีที่สุดเพียงอันดับที่ 10 พร้อมกับถูกวงน้องใหม่กว่าอย่าง STU48 ที่เพลง Kurayami (暗闇) แซงขึ้นมาอยู่เป็นอันดับที่ 8 อีกทั้งเพลง 47 no Suteki na Machi e ก็สามารถครองที่ 1 ได้สำเร็จ

แม้ว่าการโหวตในงาน AKB48 Group Request Hour Setlist Best 100 จะสิ้นสุดภายในช่วงเดือนธันวาคมของปีก่อนที่จะประกาศผล แต่สิ่งที่จะวัดถึงความนิยมของแฟนคลับ NGT48 หลังกรณี Yamaguchi Maho ก็คือการเลือกตั้งเซมบัตสึที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งจะบ่งชี้ถึงความเสื่อมถอยในศรัทธาของแฟนคลับในตอนนี้

สิ่งที่แฟนคลับต้องการในเวลานี้ ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนผู้จัดการเธียเตอร์ หรือคำขอโทษ แต่เป็นการตามหาคนร้ายตัวจริงที่ทำร้าย Yamaguchi Maho (รวมไปถึงเมมเบอร์ที่อาจ) ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้ทำให้แฟนคลับที่เสียความเชื่อมั่นไปแล้วจะกลับมาสนับสนุนเหมือนเดิม แต่อย่างน้อยที่สุด ก็ทำให้ผู้สนับสนุนทุกคนได้รับรู็ความจริง และเป็นบทเรียนที่จะมอบให้กับสังคมในการปกป้องเมมเบอร์ในอนาคต

ผู้เขียนมองว่า อนาคตหลังจากนี้ NGT48 จะไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนแต่ก่อนตราบเท่าที่กรณี Yamaguchi Maho ยังไม่เป็นที่กระจ่าง และการปล่อยให้ผู้คนลืมไปตามกาลเวลาไม่ใช่ทางเลือกที่ดี เพราะแฟนคลับหลายคนยังจำได้ และรักเมมเบอร์เหมือนเพื่อนเหมือนคนในครอบครัวอีกคนหนึ่งเช่นกัน

บทส่งท้าย

จากวันที่ NGT48 เต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่จากแฟนคลับและผู้สนับสนุนเป็นจำนวนมาก กลายเป็นวันที่วงได้เข้าสู่ยุคมืดของวงที่แฟนคลับและภาคธุรกิจหันหลังให้กับการออกเงินสนับสนุนวง การทุ่มเทเงินจำนวนมากในอดีตเพื่อให้ NGT48 จาก Niigata กลายเป็นที่กล่าวขานมาโดยตลอด กลายเป็นวันที่แฟนคลับและผู้คนโดยรอบรอวันที่ความจริงจะปรากฏ เพื่อเดินหน้าความฝันของเมมเบอร์ทุกคนอย่างปลอดภัยต่อไป

ตัวอย่างตอนต่อไป

48ศึกษากับบทวิเคราะห์ the series: Suda Akari - ซิสเตอร์ยักษ์ใหญ่จาก SKE48 ที่ไม่ใช่แค่ฉายาหมึกยักษ์? (ไอเดียโดย Thananon Meprachsom)

เมื่อ Suda Akari กลายเป็นที่กล่าวขานถึงไอดอลผู้ทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพี่สาวที่ดีของวง ผู้แบก SKE48 ในยามจำเป็น หรือแม่แต่ท่าทางที่ไอดอลน้อยคนจะทำได้






Comments

Popular posts from this blog

บทวิเคราะห์: เหตุผลที่ไม่มีทางที่จะได้เห็น Produce46..

Shiawase no Hogoshoku (しあわせの保護色) - กับตัวตนต่าง ๆ ของ Shiraishi Mai

Majimuri Gakuen (マジムリ学園) กับเค้าโครงประวัติศาสตร์จริง